xs
xsm
sm
md
lg

ผอ.ทลฉ.คนใหม่พร้อมสานต่องาน ปักธงศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผอ.ท่าเรือแหลมฉบังคนใหม่ พร้อมสานต่อนโยบาย เผยอดีต ผอ.วางไว้ มาตรฐานสูง ถือเป็นภาระสำคัญที่ต้องเดินหน้าต่อเพื่อให้งานที่วางไว้ประสบความสำเร็จ ตามยุทธศาสตร์พัฒนาท่าเรือฯ ให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เรือโทยุทธนา โมกขาว ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เผยหลังจากเข้ามารับตำแหน่งผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังคนใหม่ ว่า หลังจากที่ตนเองได้ขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ต่อจาก ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร นั้น ถือว่าเป็นงานที่หนัก เนื่องจากมาตรฐานที่อดีตผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบังวางไว้มีมาตรฐานสูง ดังนั้น จึงถือเป็นภาระสำคัญที่จะต้องดำเนินรอยตาม เพื่อให้งานที่วางไว้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งต้องหาแนวทางที่จะพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังให้ประสบความสำเร็จให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ คือ ศูนย์กลางการขนส่งสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และนำสินค้าจากประเทศไทยไปสู่ส่วนต่างๆ ของโลกให้ครบถ้วนสมบูรณ์

สำหรับกรณีการเปิดประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ที่จะเปิดดำเนินการในเร็วๆ นี้ นั้น ซึ่งจะไปเป็นไปตามรูปแบบเดิม คือวันที่ 29 มี.ค.นี้ โดยจะให้ภาคเอกชนที่สนใจมายื่นซองประกวดราคาในท่าเรือเฟส 3 โซน F หลังจากครั้งแรกเมื่อ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา มีผู้มายื่นซองเพียงรายเดียว แต่ไม่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ โดยคาดหวังในครั้งที่ 2 นี้ จะมีผู้สนใจมายื่นซองจำนวนที่มากขึ้น เนื่องจากในรอบ 2 นี้มีผู้สนใจซื้อซองเอกสารมากถึง 35 ราย ซึ่งเป็นเอกชนรายเดิม 25 บริษัท และผู้ประกอบการใหม่ 10 บริษัท

“มองว่าท่าเรือแหลมฉบังในเฟส 3 ยังเป็นที่สนใจของนักลงทุน และคาดว่าในวันที่ 29 มี.ค.นี้ จะมีนักลงทุนมายื่นซองแน่ๆ แต่จะมากี่รายนั้นก็คงขึ้นอยู่กับภาคเอกชนจะต้องไปตกลงกับหุ้นส่วนทางธุรกิจ ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม ทางเราคาดหวังว่าจะมีคนมายื่นซองเอกสารเพิ่มมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาได้มีการปรับรายละเอียดบางอย่างเพิ่มเติม เช่น ความสะดวกให้แก่ผู้ที่มายื่นซอง ให้สามารถยืดหยุ่นในข้อกำหนด และข้อจำกัดต่างๆ ในเรื่องของเอกสารหลักประกันซองที่ประกันไว้สูงถึง 4,000 ล้านบาท ให้เหลือ 1,000 ล้านบาท และปรับเรื่องคุณสมบัติต่างๆ ให้แก่ผู้มายื่นซองประมูล เปิดกว้างมากขึ้น”

เรือโทยุทธนา กล่าวอีกว่า ส่วนแนวทางในการดำเนินงานในระยะต่อไป ก็จะสานต่อจากอดีตผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง ที่วางไว้ นอกจากนั้น ยังมีงานที่จำเป็นที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน คือ โครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 สัญญาท่าเทียบเรือต่างๆ ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน เช่น ท่าเทียบเรือ B2-B3-B4 ที่จะหมดสัญญาในปีหน้าแต่ยังไม่สามารถหาผู้ประกอบการรายใหม่ได้ ท่าเรือฮิทชิสัน ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุน ซึ่งการก่อสร้างล่าช้ากว่าแผนที่วางไว้ และอู่ต่อเรือยูนิไทย ใกล้หมดอายุสัมปทาน และปัญหาก่อสร้างอู่แห้ง

นอกจากนั้น ยังมีอีก 2 โครงการที่สำคัญมากของท่าเรือแหลมฉบัง เนื่องจากท่าเรือแหลมฉบังเป็นเป้าหมายที่ทางรัฐบาลมุ่งหวังที่จะให้ทั้ง 2 โครงการประสบผลสำเร็จ คือ โครงการขนส่งตู้สินค้าทางรถไฟ หรือ SRTO ที่สร้างเสร็จแล้วแต่ยังไม่ได้เปิดดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และท่าเรือชายฝั่งที่สร้างเสร็จแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้เปิดดำเนินการ เนื่องจากรออุปกรณ์เครื่องมือบางส่วนที่ต้องนำเข้ามาใช้ในโครงการ

เรือโทยุทธนา กล่าวต่อไปว่า สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในท่าเรือแหลมฉบัง จะต้องมีการปรับปรุงให้มีความสะดวกสบายมากขึ้น เช่น ถนนในสายต่างๆ ที่ชำรุดเสียหาย ปัญหาขยะ ความสะอาดที่ท่าเรือต่างๆ ในหลายประเทศให้ความสนใจดูแล ดังนั้น ท่าเรือแหลมฉบัง จะต้องจัดการด้านความสะอาดและสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้น ปัญหาการจราจรที่มีปัญหามานานนับ 10 ปี แต่ก็ยังแก้ไขไม่แล้วเสร็จ

โดยเฉพาะรถขนส่งสินค้า ซึ่งจะต้องเข้าไปดูแลร่วมกับผู้ประกอบการ และกำลังใจของพนักงานในท่าเรือแหลมฉบัง โดยขอให้ตั้งใจในการทำงานอย่างสนุก เพื่อแก้ไขปัญหาให้เกิดเป็นรูปธรรม ส่วนเรื่องชุมชนนั้น จะต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแล เพื่อสร้างสายสัมพันธ์ให้การทำงานกับชุมชนกลมเกลียวมากขึ้น และสามารถพูดคุยเจราจาในปัญหาต่างๆ ให้ราบรื่นร่วมกันไปด้วยดี ซึ่งขณะนี้ภาพลักษณ์ดังกล่าวก็เป็นไปในลักษณะนี้แล้ว




กำลังโหลดความคิดเห็น