ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-รมว.คมนาคม นำคณะขึ้นเหนือเปิดนิทรรศการและเสวนา“ONE Transport for All 2019 : Mobility Connect Technology”ที่จังหวัดเชียงใหม่ ฉายภาพยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2561 – 2580
วันนี้(8 มี.ค.62) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดนิทรรศการ “ONE Transport for All 2019 : Mobility Connect Technology” สร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี พ.ศ. 2561 – 2580 สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน และเพิ่มศักยภาพด้านการคมนาคมขนส่งและความปลอดภัย ครั้งที่ 2 ประจำปี 2562 พร้อมปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “คมนาคมทุกโหมดตอบโจทย์ประเทศไทย” โดยมีผู้ที่สนใจจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 300 คน ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทยระยะ 20 ปี พ.ศ. 2560 – 2580 และยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของไทย พ.ศ. 2558 – 2565 จะดำเนินการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการระบบการขนส่ง เพิ่มประสิทธิภาพการเป็นประตูการค้าหลักและเชื่อมโยงพื้นที่เศรษฐกิจของประเทศ อำนวยความปลอดภัย สะดวก รวดเร็วในการเดินทาง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
โดยกรอบแนวคิดการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ประกอบด้วย การขนส่งที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มั่นคงด้วยพลังงานทางเลือกใหม่และระบบขนส่งที่ประหยัดพลังงาน การเข้าถึงระบบขนส่งอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม ด้วยการออกแบบและการบริการเพื่อคนทุกกลุ่ม ลดต้นทุนการขนส่งและโลจิสติกส์ มุ่งเน้นการพัฒนาระบบคมนาคมไทยบนพื้นฐานของการคิดค้นนวัตกรรมและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
สำหรับภาพรวมยุทธศาสตร์พัฒนาระบบคมนาคมขนส่งของไทย ระยะ 20 ปี นั้น แบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2561 – 2565) วงเงินลงทุนรวม 1,714,241 ล้านบาท โครงการส่วนใหญ่ดำเนินการเห็นเป็นรูปธรรม และบางโครงการใกล้แล้วเสร็จ เช่น สะพานข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน – โคราช และท่าอากาศยานเบตง ระยะที่ 2 โครงการที่ดำเนินการในปี 2566 – 2570 วงเงินลงทุนรวม 636,863 ล้านบาท ระยะที่ 3 ดำเนินการในปี 2571 – 2575 วงเงินลงทุนรวม 418,121 ล้านบาท และระยะที่ 4 ดำเนินการในปี 2576 – 2580 วงเงินลงทุนรวม 318,436 ล้านบาท
โดยมีโครงการสำคัญที่เร่งรัดผลักดันเพื่อให้เกิดการพัฒนาในพื้นที่ภาคเหนือ ยกระดับการเดินทางและขนส่งสินค้าในภูมิภาค ตลอดจนสนับสนุนการท่องเที่ยว ประกอบด้วย 1.ทางราง ได้แก่ รถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ – เชียงใหม่ รถไฟทางคู่ ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ ปากน้ำโพ – เด่นชัย เด่นชัย – เชียงใหม่ เด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ และการศึกษารถไฟฟ้ารางเบาเพื่อการเดินทางที่คล่องตัวและลดปัญหาการจราจร,
2.ทางอากาศ เพิ่มศักยภาพท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ท่าอากาศยานนานาชาติแม่สอด เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาท่าอากาศยานภูมิภาค ประกอบด้วย ท่าอากาศยานลำปาง และท่าอากาศยานแพร่
3.ทางถนน ประกอบด้วย ถนนไฮเวย์ ช่วงเชียงใหม่ – ลำปาง – พะเยา – เชียงราย ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ตาก – แม่สอด สะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 2 ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ สถานีขนส่งสินค้าภูมิภาค จุดพักรถบรรทุก และทางลอดฟ้าฮ่าม และ 4.ทางน้ำ เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งทางน้ำ เพื่อลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ได้แก่ ท่าเรือเชียงแสน ท่าเรือเชียงของ และการพัฒนาท่าเรือบกที่ จังหวัดนครสวรรค์