xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ “ลุงตู่” เยือนอีสาน เปิดสถานีรถไฟลอยฟ้าขอนแก่น 13 มี.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวขอนแก่น - นายกฯ “ลุงตู่” ไปอีสาน ลั่นฆ้องเปิดสถานีรถไฟลอยฟ้าขอนแก่น 13 มี.ค.นี้ เผยเป็นสถานีรถไฟ 2 ชั้น 4 ชานชาลา ขนาดใหญ่สุดบนเส้นทางรถไฟรางคู่จิระ-ขอนแก่น ช่วยร่นเวลาเดินทางได้เร็วขึ้นเท่าตัว รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 10 ล้านคน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (7 มี.ค. 62) นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย, บริษัท ช.การช่าง ตัวแทนหน่วยงานปกครองจังหวัดขอนแก่น และตัวแทนทหาร มทบ. 23 ได้ร่วมกันตรวจความพร้อมอาคารสถานีรถไฟขอนแก่น ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการประชาชนอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มี.ค. 2562 นี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเป็นประธานในพิธีเปิดในช่วงเช้าของวันดังกล่าว

นายสมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ระบุว่า การก่อสร้างสถานีรถไฟขอนแก่นแล้วเสร็จตามกรอบเวลาในสัญญาก่อสร้างในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ชุมทางจิระ (นครราชสีมา)-ขอนแก่น ภายใต้งบประมาณก่อสร้างกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท โดยสถานีรถไฟขอนแก่นเป็นสถานียกระดับสูงจากพื้นราว 14 เมตร ผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น พื้นที่กว้างขวาง มีลิฟต์บริการจากชั้นล่างขึ้นสู่ชานชาลาชั้น 2

“สถานีรถไฟขอนแก่นโฉมใหม่แห่งนี้ก่อสร้างเพื่อรองรับการคมนาคมทางระบบรางในอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า มีชานชาลาผู้โดยสาร 4 ชานชาลา นอกจากนี้ยังมีสถานีกระจายสินค้าอีกด้วย ถือว่าจังหวัดขอนแก่นมีความพร้อมในด้านการขนส่งระบบรางเป็นอย่างมาก” นายสมศักดิ์กล่าว



สำหรับสถานีรถไฟลอยฟ้าขอนแก่นแห่งนี้ ชั้นล่างประกอบด้วยห้องจำหน่ายตั๋ว พื้นที่เชิงพาณิชย์ หรือพื้นที่สำหรับเปิดให้เช่าจำหน่ายสินค้า อาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ และห้องควบคุมการเดินรถที่มีระบบที่ทันสมัย สามารถสั่งการและติดตาม คำนวณการเดินรถที่ต้นทางออกจากสถานีขอนแก่น

ส่วนชั้น 2 จะเป็นชานชาลาสำหรับผู้โดยสาร นอกจากจะใช้งานในรูปแบบเป็นรถไฟทางคู่แล้ว โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางจิระ-ขอนแก่น ก็ได้เตรียมพื้นที่เพื่อรองรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงในอนาคตอีกด้วย

หลังจากเปิดให้บริการผู้โดยสาร จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางจากชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น จาก 3 ชั่วโมง เหลือ 1.20 ชั่วโมง และช่วยลดเวลาการขนส่งสินค้าจากเดิม 6 ชั่วโมง เหลือเพียง 2.30 ชั่วโมง รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นจาก 2 ล้านคนต่อปี เป็น 10 ล้านคนต่อปี



กำลังโหลดความคิดเห็น