น่าน - แม่ทัพน้อยที่ 3 ติดตามปัญหาไฟป่าหมอกควันพื้นที่จังหวัดน่าน พบลักลอบเผาเตรียมพื้นที่การเกษตร และเพื่อหาของป่า โดยพื้นที่ป่าเสียหายไปแล้วกว่า 2 พันไร่ คาดหากไม่ได้รับความร่วมมืออาจมีการประกาศปิดป่าห้ามเข้าเด็ดขาด
พลโท สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 เป็นประธานประชุมขับเคลื่อน แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดน่าน เพื่อติดตามผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน พร้อมรับฟังปัญหา อุปสรรคในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลปรับแผนรองรับสถานการณ์ไฟป่าที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนนี้ โดยมี พล.ต.ดุษิต ปุระเสาร์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 38 พร้อมด้วย นายนิทรรศ เวชวินิจ ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.น่าน หน่วยควบคุมไฟป่า เครือข่ายเสือไฟ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก 15 อำเภอในจังหวัดน่านเข้าร่วมประชุม ที่ห้องประชุมกองบังคับการมณฑลที่ 38 ค่ายสุริยพงษ์ จ.น่าน
ที่ประชุมมีการสรุปสถานการณ์การเกิดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จังหวัดน่าน ตั้งแต่มกราคม-3 มีนาคม 62 เกิดจุดความร้อนจำนวน 385 จุด โดยสถิติพบว่า 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เวียงสา, อ.ทุ่งช้าง, อ.ปัว และ อ.นาน้อย เกิดไฟป่าในพื้นที่ป่าสงวน และป่าอนุรักษ์บ่อยครั้ง สาเหตุหลักมาจากการเผาทำลายขยะทางการเกษตรอย่างเปลือกและซังข้าวโพดเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก รวมทั้งลักลอบเผาในป่าเพื่อหวังของป่า เช่น ผักหวาน และเห็ดเผาะ ซึ่งมีราคาสูงเป็นที่นิยมบริโภค ซึ่งพบพื้นที่ป่าเสียหายไปแล้วกว่า 2 พันไร่
พล.ท.สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวว่า ที่ผ่านมาใช้กลไกประชารัฐ ให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมมือกันแก้ไขปัญหา มุ่งเน้นการรณรงค์สร้างจิตสำนึก และใช้การประชาสัมพันธ์ด้วยสื่อทุกชนิด เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากไฟป่าและหมอกควัน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากประชาชน แต่อย่างไรก็ตามยังพบปัญหาชุมชนบนพื้นที่สูงที่มีความจำเป็นต้องเพาะปลูกเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ยังทำในรูปแบบไร่เลื่อนลอย ตรงนี้จะเร่งหาแนวทาง หาทางออกให้เหมาะสมกับวิถีชีวิตของประชาชนในแต่ละพื้นที่ และอีกบางส่วนที่ลักลอบเผาป่าเพื่อมุ่งหาของป่ามาสร้างรายได้
ตรงนี้จะได้ให้แต่ละพื้นที่พิจารณาตามความเหมาะสม และหากขอความร่วมมือแล้วยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้ อาจจะต้องมีการประกาศปิดป่าเพื่อควบคุมบุคคลเข้าออกรวมไปถึงการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ฝ่าฝืนในห้วงประกาศการห้ามเผา
