พิษณุโลก – จับกระแสเลือกตั้งพิษณุโลก เขต 1“หมอวรงค์-ปชป.”เจอเขย่าแรง พปชร.-ภท.ส่อกุมเสียงทหาร-ชุมชน แถมโดนแบ่งเขตใหม่ฐานเสียงคนรุ่นใหม่ใน มน.ถูกย้ายไปเขต 4 ซ้ำ ส่วนเขต 2-5 โค้งนี้แชมป์เก่า-ตัวแทน ยังเป็นตัวยืน
สนามเลือกตั้งพิษณุโลก 5 เขต เดิมพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย ยึดครองเก้าอี้ ส.ส.มาต่อเนื่อง แต่รอบนี้หลายตัวแปรที่เพิ่มขึ้น ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อฐานเสียงเดิมอยู่ไม่น้อย
โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ เจ้าของพื้นที่เดิมที่ครองใจคนเมืองสองแควมานาน แต่รอบมีสิทธิ์เหนื่อย..เพราะฐานคะแนนในอดีต อาจถูกเจาะปันส่วนออกไป อาทิ เสียงของทหารสังกัด 2 ค่ายใหญ่ มีโอกาสเทให้นายเศรษฐา กิตติจารุรักษ์ ผู้สมัครค่ายพลังประชารัฐ (พปชร.) แถมเสียงชาวชุมชนเทศบาลนครพิษณุโลก ส่อเทไปให้นายคณาธิป นาทิพย์ จากพรรคภูมิใจไทย
ขณะที่ฐานเสียงนิวโหวตเตอร์-หนุ่มสาว นิสิต ม.นเรศวร เขต ต.ท่าโพธิ์ ถูกแบ่งเขตใหม่ ย้ายจากเขต 1 ไปเขต 4 ทำให้กระแสคนรักหนุ่มมาร์ค-กาหมอวรงค์ เปลี่ยนไป..เทให้พรรคอนาคตใหม่ เขต 4 แทน ประเมินได้จากการขึ้นเวทีหาเสียงของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แทบไม่ต้องเกณฑ์คน เพราะมีบรรดาหนุ่มสาวนับพันคนแห่ฟังปราศรัยที่สวนชมน่าน
นอกจากนี้นางวิเชียร น้อยน้ำใส ที่เคยช่วยพรรคประชาธิปัตย์ เที่ยวนี้กลับลงเป็นผู้สมัครพรรคเสรีรวมไทย ส่วนพรรคสุเทพ เทือกสุบรรณ หรือเครือข่าย กปปส.เดิมนั้น ก็ส่งผู้สมัครลงในนาม”พรรครวมพลังชาติไทย”ครบทั้ง 5 เขต
สำหรับกระแสความนิยมผู้สมัครคนหนุ่ม ”พรรคไทยรักษาชาติ”แม้ว่าจะเดินขอคะแนนอยู่ทุกวัน แต่ยังก็ต้องรอลุ้นชะตากรรม 7 มี.ค.นี้ ซึ่งพลาดมาก็ยังมีพรรคเพื่อชาติ เขต 1 รอรับอยู่เงียบๆ
ส่วนเขตเลือกตั้ง 2 แชมป์เก่าอย่าง นายนพพล เหลืองทองนารา-พรรคเพื่อไทย เพิ่งขยันทำแต้ม หลังจากให้พ่อและแม่ เดินสายหาเสียงก่อนหน้านี้ แต่พรรคเพื่อชาติ ดูเหมือนจะคึกคักในโค้งสุดท้าย ล่าสุด 1 มี.ค.ที่ผ่านมา นายยงยุทธ ติยะไพรัช ยกคณะขึ้นเวทีปราศรัยช่วยนายยอด นาคหวัง ผู้สมัครของพรรคอย่างเต็มที่ ตัดแต้ม จ.ส.อ.พัฒณปกรณ์ ดอนตุ้มไพร พรรคพลังประชารัฐ ที่เสียงดีวันดีคืน-กระแสแรง จนถูกมือมืดทำลายป้ายหาเสียงเบอร์ 5 มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม เขตนี้ยังต้องจับตานายธวัชชัย กันนะพันธุ์ ผู้สมัครพรรคชาติพัฒนา เบอร์ 9 ที่มั่นใจว่าคนในเขต 2 เลือกตัวบุคคลมากกว่าพรรคดัง มั่นใจว่าชื่อชั้น “อดีตนายก อบจ.พิษณุโลก 3 สมัย” มีผลงานขอคะแนนแถบชานเมืองพิษณุโลกได้ไม่น้อย
เขตเลือกตั้งที่ 3 นายพงษ์มนู ทองหนัก เบอร์ 5 ลงป้องกันแชมป์ให้ “นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์” ที่ลงสมัครในระบบปาร์ตีลิสต์ มั่นใจฐานเสียงเดิม ไม่สนคู่แข่งอย่างพรรคพลังประชารัฐ ที่ส่งอดีต สจ.ลงสู้ และนายหัสนัยน์ สอนสิทธิ์(อดีต ส.ส.เพื่อไทย) ที่ต้องลุ้นไปกับชะตากรรม “ไทยรักษาชาติ”
เขตเลือกตั้งที่ 4 ราศียังจับแชมป์เก่า นายนิยม ช่างพินิจ เบอร์ 9 พรรคเพื่อไทย ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 5 ฐานเสียงเดิมแน่น คือ นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.ปชป.หลายสมัย แต่ย้ายค่ายเข้าสังกัด “พรรคเพื่อไทย เบอร์ 11” หลายคนประเมินว่า คนนครไทย ชาติตระการ เลือกตัวบุคคลแน่นอน
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่า ช่วงนี้นายนคร จะเลือกสีเขียวมาเป็นเป้า จนถูกรองเสธฯมทบ.39 พร้อมคณะ ขึ้นโรงพัก สภ.เมืองพิษณุโลก ลงบันทึกประจำวันว่า โพสต์ข้อมูลบิดเบือนจากข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหาทหารลงพื้นที่ ต.นาบัว อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ตามดู ส.ส.หาเสียง และใช้ภาพเก่าประกอบ
ซึ่งนายนคร มาฉิม โต้ยืนยันว่า มีทหารติดตามการหาเสียงตนจริง และภาพรถเก๋งนายทหารที่โพสต์เผยแพร่ก็เป็นภาพใหม่ ขณะกำลังหาเสียงที่บ้านนาบัว อ.นครไทย จริง พร้อมย้ำว่า หากนายกฯ หรือ ผบ.ทบ.หรือแม่ทัพภาคที่ 3 มีคำสั่งใดๆไม่ว่าทางลับหรือเปิดเผยต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ก็ขอหยุดพฤติกรรม ขอให้ทหารกลับสู่กรม กอง อย่าสร้างบรรยากาศคุกคามข่มขู่ ต้องให้ประชาชนใช้สิทธิ์เลือกตั้งด้วยความอิสระ
