ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-“ชัชชาติ”นำทัพ“เพื่อไทย”ลงพื้นที่เชียงใหม่เดินลุยหาเสียงเลือกตั้ง โชว์กินจิ้งกุ่งทอดสร้างเสียงฮือฮากลางตลาดวโรรส ก่อนจัดเวทีปราศรัยใหญ่ช่วงค่ำ ตำหนิกรณีปลดผู้ประกาศข่าวพ้นดีเบตการเมือง เซ่นโพล นศ.ไม่เอา “ลุงตู่”
วันนี้(2 มี.ค.62) ที่ตลาดวโรรส หรือ กาดหลวง ในตัวเมืองเชียงใหม่ แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ,นายนภดล ปัทมะ และนายปลอดประสพ สุรัสวดี พร้อมด้วยนางสาวทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 เชียงใหม่ และนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 6เชียงใหม่ ลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งพบปะประชาชนขอคะแนนเสียงสนับสนุนให้พรรคและผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค ในการเลือกตั้งวันที่ 24 มี.ค.62
ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักและอบอุ่น ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีทั้งจากบรรดาเจ้าของร้านค้าและประชาชนที่มาจับจ่าย โดยนายชัชชาติ ซึ่งเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ได้ทักทายผู้คนอย่างเป็นกันเองและยังกินจิ้งกุ่งทอดที่วางขายอยู่ระหว่างที่เดิน สร้างเสียงฮือฮาชอบใจให้กับผู้ที่รอต้อนรับอย่างมาก
และช่วงเย็นวันนี้(2 มี.ค.62) พรรคเพื่อไทย มีกำหนดจัดเวทีปราศรัยที่สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแนะนำนโยบายพรรคและผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 9 เขตเลือกตั้งของจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากที่ตลอดทั้งวันนี้ทางแกนนำของพรรคมีการแบ่งสายกันลงพื้นที่เดินพบปะประชาชนในเขตเลือกตั้งที่ 1-4 ของจังหวัดเชียงใหม่
นายชัชชาติ เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่ครั้งนี้ว่า จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือเป็นพื้นที่สำคัญที่จะต้องมาช่วยผู้สมัครหาเสียง ซึ่งเวลานี้ถือว่าผลตอบรับดีมากโดยเฉพาะเขต 1 เชียงใหม่ ที่นางสาวทัศนีย์ เป็นอดีต ส.ส.ในพื้นที่ ขณะเดียวกันการลงพื้นที่ครั้งนี้ยังเพื่อมาดูสถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เป็นปัญหาหลักและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนของคนเชียงใหม่และภาคเหนือด้วย เพราะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการท่องเที่ยว ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งหัวใจหลักของเชียงใหม่คือเรื่องของการท่องเที่ยวที่ต้องได้รับการพัฒนา เนื่องจากเป็นหัวเมืองหลัก ที่จะเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวของภาคเหนือ รวมทั้งเรื่องของการคมนาคม และประชาชนตัวเล็กๆ ในพื้นที่ให้มีรายได้หมุนเวียน ทั้งนี้จากโพลล์ของพรรคที่ทำเชื่อว่าจำนวน ส.ส.ในพื้นที่ภาคเหนือยังครองที่นั่งได้มากกว่าพรรคอื่นๆ
ส่วนกรณีบอร์ด อสมท.มีคำสั่งปลดนางอรวรรณ ชูดี ผู้ประกาศข่าวโมเดิร์น ไนน์ ทีวี จากกรณีจัดรายการศึกเลือกตั้ง 62 แล้วให้นักศึกษา100คนจากทั่วประเทศ ร่วมโหวตคำถามที่ทางรายการตั้งขึ้น ซึ่งผลที่ออกมาถูกมองว่าเป็นการชี้นำโจมตีรัฐบาลนั้น นายชัชชาติ แสดงความเห็นว่า สื่อมวลชนเป็นสถาบันสำคัญทางประชาธิปไตย สื่อมวลชนต้องมีความเที่ยงธรรม สามารถให้ทุกฝ่ายให้ความเห็นได้ แต่ว่าการมาแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน จะต้องเป็นเครื่องหมายคำถามอันใหญ่ ว่าจะทำให้ความเชื่อถือมันลดลงหรือไม่ ซึ่งมองว่าสื่อมวลชนเป็นสถาบันที่มีเกียรติที่เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เกิดความยุติธรรมในสังคม ทุกคนต้องมีสามารถแสดงความเห็นได้อย่างอิสระ
โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่เป็นของรัฐ สื่อที่เป็นรัฐวิสาหกิจไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งแต่เป็นของประชาชนทั้งหมด ซึ่งเท่าที่ดูน้องๆ นักศึกษาที่มาให้ความเห็นถือว่ามาด้วยความอิสระไม่มีใครบังคับขึ้นมา สิ่งนี้ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นอีก ทั้งนี้เรื่องนี้จะส่งผลลบกับภาครัฐโดยตรงที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าใดที่ทำเนื่องจากคนไทยไม่ชอบความไม่ยุติธรรม ทำให้ครั้งนี้เกิดผลลบกับทาง อสมท.มากกว่า ในอนาคตคงต้องให้ความละเอียดรอบคอบในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งหากสื่อเองอย่าง อสมท.แสดงความไม่เป็นธรรมออกมาก็จะยิ่งทำให้ประชาชนลดความน่าเชื่อถือในสื่อนั้นลงไปอีก บอร์ดควรจะไปดูผลงานของตัวเอง ที่ตอนนี้ อสมท.ขาดทุนปีละกว่า 300 กว่าล้าน หากลดความน่าเชื่อถือลงก็ยิ่งจะทำให้เกิดผลทางลบมากยิ่งขึ้น
