xs
xsm
sm
md
lg

ศึกเลือกตั้ง เขต 1 นครปฐมคึกคัก ผู้สมัครหน้าใหม่ –หน้าลงสนามหวังชิงเก้าอี้ เข้าสู่สภา

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นครปฐม- สนามเลือกตั้งเขต 1 นครปฐม คึกคักมากขึ้น หลังจากแกนนำจากพรรคต่างๆ ได้มีการลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงอย่างคึกคัก มีผู้สมัครจำนวน 22 คน จาก 22 พรรคการเมืองมาลงชิงชัย ถือว่ามากเป็นประวัติการณ์ครั้งหนึ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่

สนามเลือกตั้ง เขต1 นครปฐม เจ้าของพื้นที่เดิมคือ พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร หรือ เสธ.แก้ว อดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่เดิม ที่มาครั้งนี้ได้เปลี่ยนเสื้อใหม่จากที่เคยอยู่ในสังกัดพรรคชาติไทย ที่มีนายบรรหาร ศิลปะอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำทีมในการเลือกตั้งมาหลายสมัย แต่ครั้งนี้ เสธ.แก้ว ย้ายมาสังกัดใหม่คือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคการเมืองเก่าแก่ ซึ่งการหาเสียงครั้งนี้แกนนำของพรรค อย่าง นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ลงมาในพื้นที่เพื่อช่วยในการหาเสียงและขอคะแนนจากชาวบ้านเพื่อหวังโกยคะแนนให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปนั่งในฝั่งรัฐบาลอีกสมัย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับ เสธ.แก้ว และผู้สมัครอีก 4 อย่างชัดเจน

การเลือกตั้งครั้งนี้ เสธ.แก้ว ได้รับกำลังใจอย่างเต็มที่จากบิดาคือ นายสุนทร แก้วพิจิตร นักการเมืองรุ่นใหญ่ ที่มีฐานเสียงที่หนาแน่นในเขตพื้นที่เทศบาลนครนครปฐม และเป็นฐานกำลังหลักของตระกูลแก้วพิจิตร โดยการลงพื้นที่หาเสียงของ เสธ.แก้ว เน้นวิธีการเดินลงพื้นที่หาเสียงถึงทุกชุมชนและตำบล โดยเน้นเข้มในเรื่องกฎกติกา ของ คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นหลักและไม่เปิดโอกาสให้สื่อได้เข้าสัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลที่สุ่มเสี่ยงจะผิดกฎหมายการเลือกตั้ง

แม้จะดูเป็นการหาเสียงที่เน้นถึงฐานเสียงแต่ข้อมูลต่างๆด้วยแนวนโยบายจึงเป็นการชัดเจนด้วยการว่าถึงนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีการวางแนวทางที่ชัดเจนไว้แล้ว และการเดินลงพื้นที่หาเสียงจะมีการวางแผนวันต่อวัน และจะทราบกันในทีมงานที่แจ้งกับ กกต.ไว้ในช่วงเช้าก่อนออกลงหาเสียงเท่านั้น

ขณะที่ นายอานันท์ จันทร์สุทธิ หรือ เลขาติ๊ด ผู้สมัครหมายเลข 11 จากพรรคชาติไทยพัฒนา แม้จะใหม่ในชื่อของการลงชิงชัย ในสนามการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ในวงการการเมืองในจังหวัดนครปฐม นั้นถือว่าเป็นที่รู้จักกันมานานหลายปี ด้วยเพราะความเป็นที่ไว้ใจของ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงพาณิชย์ นักการเมืองหมายเลขหนึ่งของจังหวัดนครปฐม และนายอนุชา สะสมทรัพย์ น้องคนสุดท้องของตระกูลสะสมทรัพย์

ซึ่งขณะนี้นั่งอยู่ในฐานะรองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ส่งลงให้มาชิมรางในการสนามเลือกตั้งครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นผู้สมัครที่น่าจับตามอง คนหนึ่ง เพราะประสบการณ์เคยเป็นอดีต นายกอบต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน มาแล้ว พ่วงกับเคยนั่งในตำแหน่ง อดีตคณะอนุกรรมการการมีส่วนร่วมวุฒิสภา อดีตเลขานุการคณะกรรมการการต่างประเทศวุฒิสภา อดีตคณะอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพนักงานเทศบาลและพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลจังหวัดนครปฐม โดยคร่ำหวอดในสนามการเมืองมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2539 จึงการันตีประสบการการทำงานได้ไม่น้อย

นายอานันท์ จันททร์สุทธิ หรือ เลขาติ๊ด ผู้สมัครหมายเลข2 พรรคชาติไทยพัฒนา จึงหวังเบียดคะแนนในช่วงท้ายเพื่อเช้าวินสู่สภาผู้แทนราษฎร ด้วยการลงพื้นที่เข้าถึงบ้านเรือน ในเขต 1 ทุกครัวเรือน แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยมีฐานเสียงหลัก คือ ตลาดบน ตลาดล่าง เขตเทศบาลนครนครปฐม และอีก 12 ตำบล อาศัยความเป็นลูกหลานชาวนครปฐม เดินเข้าถึงตัวฐานเสียง ด้วย คอนเซ็ปต์ เป็นลูกแม่ค้าตลาดนครปฐม

โดยได้หยิบเอานโยบาย 4 ข้อ คือ 1 เงินต้องมีในกระเป๋า 2 แม่ค้าพ่อค้าต้องมีที่ทำกิน 3 ภาษาอังกฤษต้องเริ่มตั้งแต่อนุบาล 4 สุขภาพต้องได้รับการดูแล เพื่อขอคะแนน โดยบอกว่า ส่วนที่เหลือเป็นเรื่องนโยบายของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ผู้ใหญ่ในพรรคจะขับเคลื่อนส่วนของ ส.ส. มีหน้าที่จะมาพบชาวบ้านเพื่อขับเคลื่อนนโยบายร่วมกับพรรคต่อไป

ขณะที่ นางสาวธนัญญา พันธุ์การรุ่ง ผู้สมัครหมายเลข 5 จากพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งครั้งนี้ก็ได้ก้าวกระโดดลงมาสู่สนามการเลือกตั้งอีกครั้งหลังจากเคยเป็น อดีตนายกองค์การบริการส่วนตำบลพระประโทน เขตอำเภอเมืองมาแล้ว และด้วยความที่ยังคลุกคลีกับแวดวงการเมือง จึงได้รับการทาบทามให้มาลงรับสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ ในครั้งนี้

ซึ่งหลังจากที่ พรรคไทยรักษาชาติ ได้นำทีมแกนนำพรรค อย่างนายจาตุรณ ฉายแสง ประธานที่ปรึกษายุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคไทยรักษาชาติ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ ประธานรณรงค์หาเสียง และแกนนำกว่า 13 คน ขึ้นเวทีปราศรัยที่ตลาดปฐมมงคลในตัวเมืองนครปฐม ก็มีกระแสของคนเสื้อแดงออกมาต้อนรับอย่างคึกคัก โดยแกนนำได้วอนขอคะแนนจากชาวบ้าน แม้ครั้งนี้คนในตระกูลสะสมทรัพย์จะได้ไปนั่งอยู่อีกในสังกัดใหม่ แต่ก็ขอคะแนนคนเสื้อแดงที่เป็นทุนเดิมขอคะแนนกลับมาเลือกตั้งให้พรรคกลับไปเป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาลอีกครั้ง

การจับตาการหาเสียงเลือกตั้งของตัวเก็งทั้ง 3 ร่วมกับผู้สมัครอีก 19 คนจึงเริ่มเข้มข้นมากขึ้น แม้ครั้งแรกจะมีการวิเคาะห์ว่า พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ผู้สมัครหมายเลข 2 พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นม้าวินในสายตาคอการเมืองท้องถิ่น แต่มวยที่ชกรัดกุมและเดินเกมรุกแบบเงียบๆ นั้นจะรักษาเก้าอี้ไว้ได้หรือไม่ เพราะ นายอานันท์ จันทร์สุทธิ ผู้สมัครหมายเลข 11 ก็มีฐานเสียงที่อยู่ในเขตเทศบาลนครนคร เช่นกัน
และเป็นกำลังที่รับแรงหนุนจากระกูลสะสมทรัพย์ ก็อาจจะเป็นม้าที่แรงน่าจับตาไม่น้อย เพราะการใช้กำลังคนน้อยแต่เข้าถึงฐานเสียงแบบโฟกัสก็ยังอยู่อย่างต่อเนื่องไม่หยุด ส่วน นางสาวธนัญญา พันธุ์การรุ่ง ผู้สมัครหมายเลข 5 พรรคไทยรักษาชาติ ก็มีฐานเสียงเป็นกลุ่มคนเสื้อแดงที่ยังปักใจมั่นคงกับแกนนำที่มาหาเสียงในจังหวัดนครปฐม

ซึ่งระยะไม่กี่วันก็จะถึงการเลือกตั้งในวันที่ 24 มีนาคมนี้ จึงน่าจับตาว่าโค้งสุดท้ายใครจะเป็นผู้ที่เข้าวินในที่สุด จะเป็นเจ้าของเก้าอี้เดิมหรือเป็น ส.ส. คนใหม่ ที่จะเข้าวิน สนามการเลือกตั้งเขต 1 จึงเป็นการขับเคี่ยวที่สนุกอีกเขตการเลือกตั้งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม







กำลังโหลดความคิดเห็น