ลำปาง - พ่อ-แม่อุ้มหลานวอนตำรวจลำปางคลายข้อสงสัย หลังพบศพลูกชาย-สะใภ้ผูกคอตายอย่างมีเงื่อนงำใต้ต้นไม้ในไร่มันฯ แถมเงินสดหายไปเกือบครึ่งแสนแต่คดีไม่คืบ ด้านรอง ผบช.ภ.5 ลงพื้นที่สั่งการ ตร.ลำปางเร่งสางคดีด่วน
วันนี้ (26 ก.พ.) นายสุริยา พุดตาน อายุ 50 ปี และนางเพชรา วงษ์ผาบุตร อายุ 47 ปี พ่อและแม่ของนายจรัญฐาธีนากร วงผาบุตร พร้อมด้วยหลานชายวัย 2 ขวบเศษ ได้กอดรูปถ่ายของลูกชาย-ลูกสะใภ้ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำในลักษณะใช้เชือกเส้นเดียวแขวนคอคาต้นไม้ในไร่มันสำปะหลังข้างลำห้วยป่าดำ ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง ได้เดินทางไปขอพบ พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รรท.ผบก.ภ.จว.ลำปาง
เพื่อร้องขอความเป็นธรรม และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดติดตามคดีการเสียชีวิตของลูกชายและลูกสะใภ้ รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไขข้อข้องใจในประเด็นต่างๆที่ตนเองตั้งข้อสังเกต
พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รรท.ผบก.ภ.จว.ลำปาง ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิรัช สึมนาพันธุ์ รอง ผบก.ฯ ปฏิบัติราชการ ภ.จว.ลำปาง รับเรื่องและประสานให้ พ.ต.อ.โสภณ ผลกันทา ผกก.สภ.เขลางค์ พร้อมพนักงานสอบสวน เข้าแจ้งความคืบหน้าของคดี
ต่อมา พล.ต.ต.จำนงค์ รัตนกุล รอง ผบช.ภ.5 ได้เดินทางมารับฟังและสอบถามผู้เสียหายทั้งสอง พร้อมซักถามถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเคร่งเครียด จนเสียงพูดคุยเล็ดลอดออกมาถึงนอกห้อง
นายสุริยา และนางเพชรา บอกกับ พล.ต.ต.จำนงค์ ว่าไม่เชื่อว่าลูกจะฆ่าตัวตาย เพราะเพิ่งไปซื้อรถมาใหม่เพื่อใช้งาน, ผู้ตายทั้งสองคนไม่ได้ทะเลาะหรือมีเรื่องผิดใจกัน ก่อนหายตัวไปก็กำลังจะไปซื้อแพมเพิร์สให้ลูก และมันสำปะหลังก็เพิ่งขายได้มีเงินสดติดตัวเกือบ 5 หมื่นบาท แต่สุดท้ายเงินก็หายไปด้วย และข้อสงสัยการเสียชีวิตที่ผิดปกติคือไม่มีร่องรอยการดิ้นทุรนทุรายก่อนเสียชีวิต วิธีการผูกคอกับบต้นไม้ที่ใช้เชือกเส้นเดียวกัน และแพทย์เคยบอกว่าลูกชายมีลักษณะถูกของแข็งทุบเหนือเข่า และที่เบ้าตามีเลือดซึม ส่วนลูกสะใภ้ก็มีรอยตบที่ใบหน้าด้านขวา มีเลือดออกที่มุมปาก ดังนั้นจึงไม่เชื่อว่าลูกฆ่าตัวตายแน่นอน
ทั้งนี้ พล.ต.ต.จำนงค์ได้เปิดดูสำนวน พร้อมสั่งให้ ผบก.ภ.ลำปางจัดชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกับผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อคลายปมข้อสงสัยของผู้เสียหายให้ได้ทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ผลการชันสูตรของแพทย์ออกมาแล้ว เหลือแต่การค้นหาประจักษ์พยาน ซึ่งก็อาจจะหายากบ้าง และเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุซ้ำอีกครั้ง
“หากพ่อ-แม่ผู้ตายสงสัยประเด็นไหนก็ให้ ผบก.ภ.ลำปางไขข้อข้องใจให้ทุกประเด็น ซึ่งก็ยอมรับว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ยังทำงานไม่เต็มร้อย แต่จะทำให้ดีที่สุด”
พล.ต.ต.จำนงค์บอกว่า อย่างไรก็ตาม การทำงานก็ต้องรอผลการตรวจสอบของหน่วยงานอื่นๆ ประกอบด้วย แต่เพื่อความสบายใจของผู้เสียหาย ซึ่งก็มีสิทธิ์ที่จะสงสัยในประเด็นต่างๆ ที่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงได้ ตำรวจจึงมีหน้าที่ในการคลี่คลายความสงสัยเหล่านั้นให้ได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุที่อาจจะสูญหายไปบ้างแล้ว และหลักฐานอื่นๆ เพิ่มตามคำให้การของพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต
ขณะที่ นายุสริยา และภรรยา กล่าวหลังได้พบรอง ผบช.ภ.5 ว่าเบื้องต้นตนก็รู้สึกสบายใจขึ้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งเข้าตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ และไขข้อข้องใจในประเด็นต่างๆ ซึ่งจะให้ความช่วยเหลือเต็มที่ แต่ความกลัวก็ยังกลัวอยู่ และก็ยังคงปักใจเชื่อว่าลูกไม่ได้ฆ่าตัวตายเช่นเดิม
