xs
xsm
sm
md
lg

ถึงกับปล่อยโฮ! ชาวบุรีรัมย์เหยื่อเต็นท์ฉ้อโกง เห็นรถตัวเอง จนท.ยึดคืนมาได้ - ปชช.แห่แจ้งเพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บุรีรัมย์ - ผู้เสียหายถูกเต็นท์รถรายใหญ่บุรีรัมย์ฉ้อโกงซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนรถ แห่นำหลักฐานแจ้งความเพิ่ม หลายคนหวังได้เงินหรือรถคืน หลังบุกร้อง “บิ๊กโจ๊ก” ช่วย ขณะชาวบุรีรัมย์ถึงกับปล่อยโฮหลังเห็นรถเก๋งตัวเองที่เต็นท์โกงไปถูกยึดกลับมาได้

วันนี้ (21 ก.พ. ) ผู้เสียหายจากหลายพื้นที่จังหวัดที่ถูกเต็นท์รถรายใหญ่แห่งหนึ่งใน อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ฉ้อโกงในการซื้อขายเปลี่ยนรถได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแสดงต่อเจ้าหน้าที่พร้อมแจ้งความเพิ่มเติมต่อพนักงานสอบสวน สภ.สตึก ท้องที่เกิดเหตุอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เอาผิดกับเต็นท์รถดังกล่าว ซึ่งผู้เสียหายที่เดินทางมาในวันนี้นอกจากจะนำเอกสารหลักฐานมาแจ้งความเพิ่มเติมแล้ว ยังได้มารอพบ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินประชาชน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จะเดินทางมาแถลงข่าวการนำหมายศาลเข้าจับกุมเต็นท์ดังกล่าวด้วย เพื่อขอให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หรือบิ๊กโจ๊ก ช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาเคยร้องเรียนขอความช่วยเหลือไปแล้วหลายหน่วยงาน แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งครั้งนี้ที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่มาดำเนินการเกี่ยวกับคดีดังกล่าวด้วยตนเอง ทำให้มีความหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมมากขึ้น


นางณัฐอร บทม์รัตน์ชยะกูร อายุ 39 ปี ชาวบ้าน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ บอกว่า เมื่อประมาณเดือน เม.ย. 2561 ได้นำรถเก๋งมาขายให้กับเต็นท์ดังกล่าว โดยเต็นท์ตีราคาให้ 300,000 บาท จึงตกลงขาย แต่พอทำสัญญาซื้อขายเสร็จเรียบร้อย ทางเต็นท์กลับบอกว่าไม่มีนโยบายรับซื้อรถเก๋งทั้งที่ตอนแรกก็ตกลงรับซื้อเหมือนกับมัดมือชกให้เป็นลักษณะตีเทิร์นแล้วบังคับให้เลือกเอารถกระบะจากเต็นท์ไป โดยหักเงินดาวน์จากยอดที่ตีราคาซื้อรถเก๋ง 120,000 บาท แล้วจ่ายส่วนต่างให้เพียง 70,000 บาท แต่เอารถมาใช้ได้ไม่นานก็มีคนมาแจ้งว่ารถกระบะที่ตนซื้อมาจากเต็นท์เป็นรถของผู้เสียหายอีกรายที่ถูกหลอกให้ซื้อขายที่เต็นท์เดียวกัน ตนจึงนำรถกระบะไปคืนพอสอบถามจะเอารถเก๋งคืนทางเต็นท์ก็บ่ายเบี่ยงอ้างว่าขายไปแล้วแต่ไฟแนนซ์กลับมาทวงค่างวดกับตนซึ่งค้างอยู่ถึง 4 งวด

แต่วันนี้มาเห็นรถเก๋งที่ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึดมาเป็นของกลาง จอดอยู่ต่อหน้าก็รู้สึกดีใจที่ได้เห็นรถของตัวเอง แม้จะยังไม่รู้ว่าจะได้รถคืนในรูปแบบไหนอยากวิงวอนให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ช่วยเหลือด้วย เพราะไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว


ด้าน นางณัฐยา อุทารัมย์ อายุ 34 ปี ชาว อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ผู้เสียหายอีกรายบอกว่า เมื่อเดือน ธ.ค. 2557 ตนและสามีได้นำรถ 6 ล้อส่งของไปขายดาวน์ให้กับเต็นท์ โดยตกลงขายดาวน์ 400,000 บาท แต่พอทำสัญญาซื้อขายเสร็จ ทางเต็นท์กลับไม่จ่ายเงินให้ แต่กลับบอกให้เลือกเอารถที่เต็นท์แทน เห็นว่าสามีจะซื้อรถดัมป์พอดีจึงจำใจต้องซื้อ โดยวางเงินดาวน์ไป 50,000 บาท แต่พอนำรถไปใช้ได้วันเดียวก็เสียใช้งานไม่ได้ จึงนำคืนแต่เต็นท์ก็ให้เปลี่ยนเอารถดัมป์อีกคันไปโดยให้วางเงินดาวน์เพิ่มอีก 70,000 บาท แต่พอเอาไปใช้ได้ไม่ถึงเดือนก็เกิดปัญหารถเสียใช้การไม่ได้อีก จึงให้เต็นท์มาลากกลับไปคืนแต่ทางเต็นท์ไม่ได้รับผิดชอบหรือคืนเงินให้เลย

ผ่านไปสักระยะมีบริษัทไฟแนนซ์ส่งหนังสือมาทวงค่างวดรถหกล้อคันที่ตนนำไปขายให้กับทางเต็นท์ เพราะตั้งแต่ซื้อไปเต็นท์ไม่ได้ส่งงวดเลย แต่ชื่อผู้เช่าซื้อยังเป็นของตนเองเพราะยังไม่ได้โอน ทำให้ตนพร้อมสามีและแม่ถูกบริษัทไฟแนนซ์ฟ้องร้องยึดทรัพย์เป็นที่นา 18 ไร่ และกำลังจะยึดบ้านอีก ทำให้ครอบครัวเดือดร้อนมาก ต้องเสียทั้งรถสูญเงินสดไปอีก 120,000 บาท และยังถูกฟ้องร้องอีก

“จึงอยากวิงวอนให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ช่วยเหลือ เพราะที่ผ่านมาร้องเรียนไปทุกหน่วยงานแล้ว เวลาผ่านไป 5 ปีแต่ก็ไม่มีความคืบหน้า” นางณัฐยากล่าว







กำลังโหลดความคิดเห็น