xs
xsm
sm
md
lg

ททท.อุดรฯ เปิดเส้นทางเที่ยวใหม่ “บึงกาฬ...อัศจรรย์ทุกฤดู” มุ่งขายนักท่องเที่ยวกลุ่ม Gen-Y

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุดรธานี - ททท.อุดรธานีเปิดเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ “บึงกาฬ...อัศจรรย์ทุกฤดู” หวังดึงนักท่องเที่ยวกระแสหลักกลุ่ม Gen-Y กลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับเทคโนโลยีไปที่ไหนต้องถ่ายภาพโพสต์ลงสื่อโซเชียล เผยเสน่ห์บึงกาฬตรึงใจคือความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ

เมื่อเร็วๆ นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุดรธานี นำโดย นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานอุดรธานี จัดกิจกรรม Media Fam Trip นำสื่อมวลชนจังหวัดอุดรธานี หนองคาย และบึงกาฬ เดินทางสำรวจพื้นที่และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวที่แปลกตาและมีความอุดมสมบูรณ์ของ จ.บึงกาฬ

รวมทั้งร่วมงานส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น บุญข้าวจี่ ระหว่างวันที่ 18-19 กุมภาพันธ์ 2562 ตามแผนการตลาดของ ททท.สำนักงานอุดรธานี ปี 2562 ในโครงการ บึงกาฬ...อัศจรรย์ทุกฤดู (Amazing Bueng Kan)

นายเสกสรร ศรีไพรวรรณ ผอ.ททท.สำนักงานอุดรธานี กล่าวถึงการจัดโครงการดังกล่าวว่า เพื่อประชาสัมพันธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬเพิ่มมากขึ้น คาดหวังให้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวกระแสหลัก โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่ม Gen-Y คือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี พ.ศ. 2523-2543 อายุ 19-39 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่โตมาพร้อมกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีไอที นิยมการถ่ายภาพเป็นที่ระลึกและโพสต์ลงสื่อโซเชียล นำมาซึ่งการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี



สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่คณะสื่อมวลชนร่วมสำรวจ จุดแรกคือ แก่งอาฮอง อยู่บ้านต้าย ต.นากั้ง อ.ปากคาด ต่างประทับใจกับแก่งหิน โขดหินสวยงามตามธรรมชาติหลากหลายรูปแบบกลางแม่น้ำโขง เรียกได้ว่าเป็น สามพันโบกของบึงกาฬ


จากนั้นเดินทางไปบ้านหนองหิ้ง ต.ท่ากกแดง อ.เซกา อีกหนึ่งชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีที่น่าสนใจ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่อย่างพอเพียงพึ่งพาตนเองได้ด้วยงานอาชีพหลากหลาย เยี่ยมชมวิถีชีวิต กิจกรรมการทอผ้า เย็บผ้า โดยชาวบ้านนำความรู้พื้นฐานเรื่องงานฝีมือด้านเย็บปักถักร้อยที่สืบต่อมายาวนานมาต่อยอดหยิบจับผ้าขาวม้าพื้นบ้านตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น พวงกุญแจ กระเป๋า หมวก ผ้าพันคอที่ทันสมัยและสวยงาม

รวมถึงผลิตภัณฑ์ผ้าชนิดอื่นที่ได้รับความนิยม แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ สะพานไม้ไผ่ ทอดยาวจากสวนสาธารณะประจำหมู่บ้านบนเกาะหวาย มุ่งสู่ดอนปู่ตา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำหมู่บ้าน ความยาวกว่า 247 เมตร ซึ่งชาวบ้านลงแรงช่วยกันก่อสร้างจนแล้วเสร็จมานาน 4 เดือนแล้วจากไม้ไผ่ที่มีผู้บริจาค

สำหรับพื้นที่ป่า และหนองหวาย มีเนื้อที่รวม 34 ไร่ ยังคงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ มีสัตว์ป่าอยู่อาศัย เช่น กระรอก ไก่ป่า เต่า ปลา นานาชนิด รวมถึงการชมต้นโพธิ์ชัย 400 ปี และต้นจามจุรี คลุมพื้นที่ 1 ไร่ ในวัดแสงอุทัย น่าสนใจไม่แพ้กัน

วันต่อมา คณะสื่อมวลชนได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร ตามโครงการจัดงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา และโครงการส่งเสริมประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นบุญข้าวจี่ ปี 2562 ที่วัดโพธาราม บ้านท่าไคร้ ต.บึงกาฬ อ.เมืองบึงกาฬ

โดยชาวบ้านจะทำข้าวจี่ ข้าวเหนียวนึ่ง อาหารคาวหวาน และกระทงอาหารและน้ำสำหรับผู้ล่วงลับมาทำบุญที่วัด พร้อมทำบุญปัจจัยปราสาทผึ้ง ถวายหลวงพ่อพระใหญ่ และจุดบั้งไฟถวายสักการะหลวงพ่อพระใหญ่

นอกจากจะได้ร่วมทำบุญตักบาตรแล้ว ที่วัดแห่งนี้ยังมีซากเรือโบราณที่กู้ขึ้นมาจากแม่น้ำโขงให้ได้ชมกันด้วย จากนั้นคณะเดินทางต่อไปยังหมู่บ้านห้วยเล็บมือ หมู่ 5 ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า หมู่บ้านนี้มีตำนานเล่าว่ามีชาวบ้านไปหาปลาที่ลำห้วยทางทิศตะวันออกของหมู่บ้านและพบวัตถุที่มีลักษณะคล้ายเล็บมือผู้หญิง จึงตั้งชื่อลำห้วยนั้นว่า “ห้วยเล็บมือ” และกลายมาเป็นชื่อหมู่บ้าน

ทางหมู่บ้านจึงสร้างสัญลักษณ์เป็นรูปมือไว้ริมน้ำโขงบริเวณลานด้านหน้าโบสถ์ ก่อนจะเดินทางไปที่หาดสีดา บ้านหนองเดิ่นท่า ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า ซึ่งเป็นหาดทรายที่ยื่นลงไปในแม่น้ำโขงประมาณ 50 เมตร น้ำท่วมไม่สูงนักประมาณ 80 เซนติเมตร จึงมีความปลอดภัยสำหรับเด็กๆ สามารถลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ


กำลังโหลดความคิดเห็น