ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -โรงไฟฟ้าขยะโคราชโมเดล 2,000 ล้าน ฉลุย! กองทัพภาคที่ 2 เซ็น MOU ให้ใช้พื้นที่ 153 ไร่ ยาว 25 ปี แลกจ่ายเงินค่าเช่าปีละ 7 ล้าน รวม 175 ล้าน เผยเร่งทำ TOR ชงจังหวัดฯอนุมัติ คาดเปิดประมูลหาผู้ลงทุนได้ในเร็วๆ นี้ ก่อสร้าง 3 ปี เสร็จปี’65
ความคืบหน้าโครงการร่วมลงทุนก่อสร้างเตาเผาขยะเพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า หรือ โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ มูลค่าลงทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ตามนโยบายการผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชนของกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาล ซึ่งเป็นโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอย ระยะที่ 2 ของเทศบาลนครนครราชสีมา นั้น
นายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) การใช้พื้นที่ในครอบครองของกองทัพบกเพื่อจัดทำโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอย เทศบาลนครนครราชสีมา ระหว่าง กองทัพบก โดย กองทัพภาคที่ 2 กับ เทศบาลนครนครราชสีมา โดย มี พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) และตน เป็นผู้ร่วมลงนาม ซึ่งเป็นการมอบพื้นที่ให้เทศบาลนครนครราชสีมาเข้ามาดำเนินการ จึงต้องขอขอบคุณทางกองทัพบก และ กองทัพภาคที่ 2 ( ทภ.2) เป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องการเห็นประชาชนชาวนครราชสีมาจัดการขยะมูลฝอยอย่างเป็นระบบ
การลงนาม MOU ครั้งนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้อนุญาตให้เทศบาลนครนครราชสีมาใช้พื้นที่ในการกำจัดขยะมูลฝอย บริเวณที่ราชพัสดุ ทะเบียนเลขที่ นม. 162 ในราชการกองทัพบก (สนามยิงปืนหนองปรือ) กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่อเนื่องกับศูนย์กำจัดขยะมูลฝอย ระยะที่ 1 เพิ่มเติมอีกเดิมจาก 73 ไร่ รวมเป็น 153 ไร่ ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องที่ตั้งโครงการฯ อย่างแน่นอน โดยโครงการระบบกำจัดขยะมูลฝอย ระยะที่ 2 นี้จะประกอบกอบด้วย พื้นที่ก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าขยะ, บ่อพักน้ำ , บ่อสำรองน้ำใช้ และ ทาง ทภ.2 ยังอนุมัติให้ใช้พื้นที่อีก 50 ไร่ เพื่อเป็นบ่อฝังกลบขยะชั่วคราวและรองรับขยะที่เข้ามาเป็นจำนวนมากทุกวัน
สาระสำคัญ MOU ครั้งนี้อีกประการหนึ่งคือ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะที่จะทำการก่อสร้างนั้น ต้องสร้างความมั่นใจว่า จะไม่ก่อให้เกิดปัญหากับประชาชนในพื้นที่โดยรอบ และต้องให้กองทัพบกเป็นผู้ควบคุมดูแลตลอดระยะเวลาการใช้พื้นที่ 25 ปี โดยจ่ายค่าเช่าที่ดินให้กับทางกรมธนารักษ์ ปีละ 2 ล้านบาท และ กองทัพบก ปีละ 5 ล้านบาท รวมเป็นปีละ 7 ล้านบาท
นายสุรวุฒิ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางเทศบาลฯ ได้จัดทำข้อกำหนดขอบเขตงาน ( TOR) เพื่อหาผู้รับเหมาเอกชนเข้ามาดำเนินการโครงการฯแล้ว โดย TOR จะเปิดกว้างให้ระบบที่มีคุณภาพทุกระบบสามารถที่จะเข้ามาสู่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างได้ ซึ่งระบบที่มีคุณภาพ นั่นคือ สามารถแปลงขยะเป็นพลังงานไฟฟ้าได้ ไม่มีมลพิษทางอากาศหรือทางอื่นๆ เช่น มลพิษทางน้ำ จากนั้นเมื่อ TOR แล้วเสร็จผ่านการตรวจสอบจากอัยการและทุกฝ่ายแล้วทางเทศบาลฯได้เสนอไปยังจังหวัดนครราชสีมา เพื่อขออนุมัติในการเป็นผู้ดำเนินการโครงการฯดังกล่าวต่อไป
สาระสำคัญหลักของ TOR คือ 1.ค่ากำจัดขยะต้องไม่เกิน 400 บาท/ ตัน 2. ต้องไม่ก่อมลพิษ เป็นไปตามมาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ 3. ผู้รับจ้างต้องทำกิจกรรม Corporate Social Responsibility (CSR) หรือความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร เพื่อให้ประชาชนโดยรอบโรงไฟฟ้าพลังงานขยะมั่นในว่าไม่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการดังกล่าว และ 4.ผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้จ่ายค่าเช่าที่ดินให้กับทางกรมธนารักษ์ และ กองทัพบก รวมปีละ 7 ล้านบาท
ทั้งนี้หลังจากทางจังหวัดอนุมัติโครงการแล้ว เทศบาลนครนครราชสีมาจะทำการเปิดประมูลหาผู้รับจ้างได้ทันที ตอนนี้ขึ้นอยู่กับทางจังหวัดว่าจะอนุมัติเมื่อไหร่เท่านั้น คาดว่าจะเป็นเร็วๆ นี้ ซึ่งตาม TOR ของทางเทศบาลฯ เราจะได้ให้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการดูว่าทุกระบบที่กล่าวมาข้างต้นสามารถป้องกันมลพิษทางอากาศ ทางน้ำ ทางเสียง และ สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้จริงตามกรอบที่กำหนดหรือไม่ และจะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ 7 คน ประกอบด้วย ตัวแทนจากฝ่าย ทหาร จังหวัด และ เทศบาลนครนครราชสีมา ขึ้นมาพิจารณาคุณสมบัติผู้รับเหมาเอกชนเพื่อให้เป็นไปอย่างโปรงใสตรวจสอบได้ และเป็นไปตามกรอบที่ TOR กำหดให้
นายสุรวุฒิ กล่าวอีกว่า โครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ หรือ ระบบกำจัดขยะมูลฝอย ระยะที่ 2 ของเทศบาลฯ ดังกล่าวเป็นระบบการกำจัดขยะด้วยเทคโนโลยีเตาเผาสมัยใหม่ กำหนดให้เป็นเตาเผาแบบตะกรับ เผาได้แบบหมดจดถูกหลักวิชาการ โดยจะมีอาคารรับขยะมูลฝอย เตาเผาแบบบ่อพัก ความจุ 7,000 ตัน (รองรับขยะ 12 วัน ที่ 550 ตันต่อวัน) มีระบบรวบรวมบำบัดน้ำเสีย และ ระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ
มูลค่าการลงทุนโครงการ ประมาณ 2,128 ล้านบาท เช่น งานก่อสร้างอาคารรับและบ่อพักขยะมูลฝาย , ระบบเตาเผาและระบบผลิตพลังงานไฟฟ้า , อาคารและสิ่งปลูกสร้างสำหรับเครื่องผลิตไฟฟ้า คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้าง 2- 3 ปี แล้วเสร็จประมาณปี 2565
ส่วนรูปแบบการลงทุน เอกชนเป็นผู้ลงทุนทั้งหมด ระยะเวลาสัญญา 25 ปี มีรายได้เป็นกระแสไฟฟ้าจำหน่ายเข้าระบบสายส่งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยตรงประมาณ 10 เมกกะวัตต์ รวมทั้งรายได้จากค่าธรรมเนียมกำจัดขยะ ในอัตรา 400 บาท/ตัน โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำขยะเข้าสู่ระบบประมาณ 39 แห่ง รวมขยะประมาณ 500 ตัน/ วัน เฉพาะของเทศบาลนครนครราชสีมามีปริมาณขยะประมาณ 220 ตัน/ วัน
“ ยืนยันว่า การดำเนินการโครงการดังกล่าว จะไม่กระทบต่อค่าจัดเก็บขยะจากประชาชนแต่อย่างใด เพราะยังเป็นราคาเดิม ” นายสุรวุฒิ กล่าวในตอนท้าย
