เมืองพัทยาวางแผนเชื่อมถนนสามสาย แก้ปัญหาการจราจรแออัด รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ศูนย์ข่าวศรีราชา -เมืองพัทยา เตรียมเวนคืนที่ดินทำถนนสาย ข4, ข5 เชื่อมถนนพัทยาสาย 3 พัทยาเหนือกับนาเกลือ 16 หวัง แก้ปัญหาจราจรแออัด รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

วันนี้ (15 ก.พ.) ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา พร้อมคณะผู้บริหาร หัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนจากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองชลบุรี ฝ่ายปกครองอำเภอบางละมุง ตัวแทนชุมชน เข้าร่วมหารือโครงการถนนตามโครงข่ายคมนาคมและขนส่งในเขตผังเมืองรวมเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อระดมแนวคิดในการรื้อฟื้นโครงการตามแผนผังเมืองในการขยายโครงข่ายคมนาคมและขนส่งขึ้นใหม่

โดยเฉพาะการขยายเขตและการเวนคืนเพื่อก่อสร้างถนนสาย 3 เชื่อมต่อถนนสาย ข4 และ ข5 เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และแก้ไขปัญหาการจราจรที่คับคั่ง ส่งผลกระทบต่อผู้ที่สัญจรผ่านไปมาอยู่ในปัจจุบัน

นายรณกิจ กล่าวว่า จากสภาพความเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของเมืองพัทยา พบว่า มีความเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ระบบคมนาคมหรือถนนสาธารณะไม่เพียงพอต่อการรองรับยานยนต์ที่มากขึ้น ที่ผ่านมา จึงมีโครงการขยายเครือข่ายระบบคมนาคมขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วอย่างถนนสาย ง. หรือถนนจอมเทียนสาย 2 ซึ่งปัจจุบันได้ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ฝั่งทิศเหนือที่เชื่อมต่อเมืองพัทยาไปยังเขตนาเกลือ นั้นยังพบว่าไม่มีระบบโครงข่ายเชื่อมโยงที่สามารถอำนวยความสะดวก และแก้ไขปัญหาการจราจรที่คับคั่งได้ สำนักการช่างเมืองพัทยา จึงได้นำเสนอโครงการเดิมเรื่องการจัดทำโครงข่ายถนนหรือการคมนาคมเพิ่มเติมอีก 2 เส้นทาง คือ ถนนสาย ข4 ซึ่งจะต่อเชื่อมจากถนนสาย 3 จากแยกพัทยาเหนือตัดตรงไปทางถนนโพธิสาร เพื่อตัดไปทะลุซอยนาเกลือ 2.45 กิโลเมตร ซึ่งจะเป็นถนนขนาดความกว้าง 20 เมตรตลอดแนว รวมทั้งการจัดทำถนนเส้นที่ 2 คือ ข5 เพื่อต่อเชื่อมจากถนนสาย ข4 จากซอยนาเกลือ 16 ตัดทะลุออกถนนสุขุมวิท ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวหากดำเนินการได้จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาการจราจรได้เป็นอย่างดี

สำหรับโครงการนี้เมืองพัทยาได้ทำการศึกษา ออกแบบ รวมทั้งการสำรวจที่ดิน แผนการเวนคืน และตั้งงบประมาณในการดำเนินการไว้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 202 ล้านบาท รวมทั้งได้มีการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในปี 2557 ที่มีการนำเสนอเพื่อจัดทำ พบว่า มีประชาชนส่วนหนึ่งออกมาต่อต้านและคัดค้าน นายกเมืองพัทยาสมัยนั้นจึงได้ขอให้ชะลอโครงการดังกล่าวไว้จนถึงปัจจุบัน

นายรณกิจ กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวผ่านระยะเวลามานานหลายปี ทำให้ปัจจุบันมีโครงการอาคารและที่พักอาศัยเพิ่มเติมขึ้นตามเส้นทางจำนวนหลายแห่ง รวมทั้งเรื่องของราคาที่ดินและราคาประเมินที่ดินที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก จึงมีการนำเรื่องเข้าหารือว่าจะดำเนินการต่อหรือไม่ ซึ่งในที่ประชุมมองว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และแก้ไขปัญหาการแออัดของระบบคมนาคมในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี จึงเสนอให้ทางผู้เกี่ยวข้องไปดำเนินการสำรวจร่วมใหม่อีกครั้ง ก่อนจะนำผลมาเสนอในที่ประชุมเพื่อพิจารณาขอความเห็นชอบ รวมทั้งการทำประชาพิจารณ์สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนใหม่อีกครั้งในเร็ววันนี้