ท่าขี้เหล็ก พม่า/เชียงราย - ตามส่องชายแดนเมืองสาด พื้นที่รัฐซ้อนรัฐ เขตอิทธิพลว้า-มูเซอ แหล่งผลิตยาเสพติด-แหล่งกบดานคนไทยหนีคดี
การติดตามไล่ล่านายปัณณวิชญ์ หรือ (โก๋แก่ ) ประทุม หรือเทพบุตร โซโล อายุ 30 ปี ชาว จ.พิจิตร ที่หลบหนีคดีตามหมายจับของศาล จ.พิจิตร ที่ จ.14/2560 ลงวันที่ 6 ก.พ. 2560 และ ที่ จ.172/2560 ลงวันที่ 6 ต.ค. 2560 ในข้อหาสมคบการกระทำผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ที่คาดว่าจะหลบหนีข้ามฝั่งไปอยู่ในรัฐฉาน พม่า
นำไปสู่ความร่วมมือระหว่างประเทศไทยกับพม่า เปิดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่บ้านนายาว จ.เมืองสาด ตรงข้าม อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จนสามารถจับกุมคนไทยที่เข้าไปทำงานในพื้นที่ดังกล่าวได้ 81 คน รวมถึงคนในแก๊งโก๋แก่มันทุกเม็ดของนายปัณณวิชญ์ ส่งมอบให้แก่ทางการไทย
ขณะที่นายปัณณวิชญ์เชื่อกันว่าใช้ช่องทางธรรมชาติด้าน จ.เชียงราย เข้าไปอยู่ในเขตอิทธิพลของชนกลุ่มน้อยมูเซอ เขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) พม่า โซนว้าใต้ (ว้าแบ่งเป็นว้าเหนือและว้าใต้มีดินแดนแยกกัน) จากนั้นอาศัยพรรคพวกช่วยเหลือ โดยเฉพาะนายวีระ หมื่นจะดา อายุ 34 ปี และมารดาชาวมูเซอที่หลบหนีคดียาเสพติดที่ จ.เชียงราย เมื่อกลางปี 2561 เข้าไปอยู่กับพ่อตาคือ พ.อ.จะลอโบ่ หนึ่งในหัวหน้ากองกำลังติดอาวุธที่มีอิทธิพลในพื้นที่ชายแดนแถบนี้
นายปัณณวิชญ์ และพรรคพวกอีก 4 คนที่ติดสอยห้อยตามกันไปอาจใช้เส้นทางป่าแถบ ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง ข้ามแดนไปบ้านแม่โจ๊ก จ.เมืองสาด เขตอิทธิพลของกลุ่ม พ.อ.จะลอโบ่ ที่อยู่บริเวณชายแดนเมืองสาดโดยตรงแบบไม่ต้องผ่านท่าขี้เหล็ก รวมถึงตัวเมืองสาด ที่เป็นเขตรัฐบาลกลาง-ทหารพม่า
ซึ่งพื้นที่ชายแดนเมืองสาดในเขตปกครองพิเศษที่ 2 (สหรัฐว้า) ปัจจุบันขยายตัวเติบโตขึ้นมากตามรอย “เมืองยอน-ศูนย์กลางว้าใต้” โดยเฉพาะบ้านนายาว บ้านเอดิ บ้านผาขาว ใกล้ชายแดนไทย ห่างจาก อ.แม่ฟ้าหลวงเพียงประมาณ 10 กิโลเมตร และห่างจากตัวเมืองสาดราว 20-30 กิโลเมตร มีการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน อาคารพาณิชย์ โรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง ฯลฯ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากฝั่งไทย
อย่างไรก็ตาม พื้นที่ชายแดนเมืองสาดถูกระบุว่าเป็นแหล่งผลิตยาบ้าแหล่งใหญ่ของเขตว้าใต้ โดยมีกลุ่มของ พ.อ.จะลอโบ่, พ.ท.ยี่เซ, ร.ท.จะงอย คุมพื้นที่และอยู่นอกเหนือเขตทหาร-ตำรวจรัฐบาลกลางพม่าจะเข้าถึงได้ การเดินทางผ่านเส้นทางสายท่าขี้เหล็ก-บ้านนายาว หรือเมืองสาด-บ้านนายาว ก็มีด่านของทหารสหรัฐว้าคอยตรวจตรา แม้แต่ทหารพม่าก็ต้องถูกตรวจสอบ
“ชายแดนเมืองสาด (เขตปกครองพิเศษที่ 2 สหรัฐว้า) รัฐฉาน พม่า” ปัจจุบันนอกจากจะเป็นพื้นที่รัฐซ้อนรัฐของพม่า-เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตยาเสพติดใหญ่แล้ว ยังเป็นหนึ่งในแหล่งกบดานของผู้ต้องหาหนีคดียาเสพติดจากไทยด้วยเช่นกัน
และในกลุ่มคนไทยทั้ง 81 คนดังกล่าวนี้ หลังจาก พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3 ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกในพื้นที่ชายแดนสอบปากคำเพื่อความรวดเร็วแล้ว พบว่าเป็นคนที่มีหมายจับติดตัวอยู่ 16 คน ซึ่งล้วนเป็นคดีที่เกี่ยวพันกับขบวนการค้ายาเสพติดทั้งสิ้น
"ผมหนีหมายจับคดีฟอกเงิน ข้ามไปฝั่งพม่าประมาณเดือน ส.ค. 2561 เข้าพักที่โรงแรมวาเลนไทน์ จ.ท่าขี้เหล็ก ต่อมาถูกชวนไปทำงานในสวนยางบ้านนายาว โดยไปพักอยู่ที่โรงแรมบ้านนายาว ร่วมกับคนไทยประมาณ 7 คน ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ก.พ. ระหว่างที่รอทำงานได้มีทหารว้ามาจับกุมตัวทั้งหมดไปยังเรือนจำเมืองสาดและนำตัวกลับส่งประเทศไทย" นายแมน หนึ่งในคนไทยที่ถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในฝั่งไทย กล่าว
สอดคล้องกับคนอื่นๆ ที่ถูกส่งตัวกลับคืน เช่น น.ส.มิลล์กล่าวว่า เมื่อประมาณ ม.ค. 2561 เพื่อนคนหนึ่งให้ไปเปิดบัญชีการกุศล และทำบัตรเอทีเอ็มให้แลกกับค่าจ้างบัญชีละ 300-500 บาท และให้เราติดต่อหาคนมาเปิดบัญชีแลกกับค่าจ้างเล่มละ 300 ต่อ 1 คน ก่อนถูกจับได้ไปพักอยู่ที่ฝั่งพม่าแล้วถูกนำไปขังที่เมืองสาด 5 วันก่อนส่งตัวกลับประเทศไทย
น.ส.อุ้มกล่าวว่า ตนถูกตั้งข้อหากระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน และสนับสนุน หรือช่วยเหลือในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พอหลบหนีไปอยู่ในพม่าก็ยังได้เงินเดือนละ 10,000 บาท โดยจะมีคนนำเงินมาฝากไว้ที่เคาน์เตอร์โรงแรม กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่พม่าจับกุมตัวส่งกลับประเทศไทยในที่สุด
นายหมูกล่าวว่า ตนเคยรับจ้างเปิดบัญชีธนาคารบัญชีละ 12,000 บาท เมื่อข้ามไปอยู่ฝั่งพม่าก็มีคนเลี้ยงดูอย่างดีโดยไม่ต้องทำงาน และยังพบคนที่มีอาชีพรับเปิดบัญชีธนาคารเหมือนกันอีกหลายคนด้วย
สำหรับตัวนายปัณณวิชญ์ มีรายงานว่ารู้ล่วงหน้าว่าทหารว้าจะบุกเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านนายาวจึงหลบหนีออกจากพื้นที่ จ.เมืองสาด แล้วอาศัยเส้นสายในเครือข่ายเดินทางไปทางทิศตะวันออก ย้อนรอยตามเส้นทางของ น.ส.ปรียานุช โนนวังชัย หรือเปรี้ยว และพรรคพวกคดีฆ่าหั่นศพ โดยหลบหนีไปอยู่ในเขตเมืองโกตั้ง อยู่ทางเหนือของเมืองท่าขี้เหล็กไปประมาณ 20-30 กิโลเมตร