จับแล้ว! สาวไลฟ์สดเผาอ้อย เย้ยคำสั่งพ่อเมืองขอนแก่น

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - จับแล้ว! สาวไลฟ์สดเผาอ้อย ท้าทายคำสั่งจังหวัดขอนแก่น ถูกตำรวจภูธรน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น และฝ่ายปกครองนำตัวมาโรงพัก เจ้าตัวสารภาพทำไปรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทั้งไม่รู้เป็นคำสั่งห้ามของจังหวัด ถูกปรับทัศนคติ ปรับ 1 พันบาท

วันนี้ (11 ก.พ. 62) นายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง จ.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง ได้เรียกตัวผู้โพสต์ภาพและข้อความขณะกำลังเผาอ้อยภายในที่ดินของตนเอง โดยใช้ชื่อเฟซบุ๊ก ว่า “ญิ๋ง เล็ก” จุดเช็กอินบริเวณบ้านหนองกุงขี้ควง ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง โดยมีข้อความประกอบภาพ ที่กำลังเผาอ้อยว่า “จุดอ้อยกะพ่อค่ะ ครั้งแรกในชีวิต ที่ไร่เล็กเอง 10 ไร่ ขอให้ได้ตังค์เยอะๆ น้า อ้อยปีแรกคิดในใจต้องปลูกอ้อยอีกกี่ปีถึงจะได้เงินหนึ่งล้านสามแสนบาทที่ซื้อนาคืน”

กระทั่งทราบตัวผู้ลงมือเผาอ้อย คือ น.ส.พิมพ์ชนก ภวภูตานนท์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 197 หมู่ 17 บ้านหนองแวง ต.บัวเงิน อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น โดยตำรวจได้คุมตัวมาทำการสอบสวน เจ้าตัวให้การรับสารภาพว่าไม่ทราบว่ามีประกาศของทางจังหวัดขอนแก่นเรื่องห้ามเผาอ้อย โดยตนได้ซื้อที่แปลงดังกล่าวในราคาล้านบาทเศษ เพื่อให้พี่สาวปลูกอ้อยส่งโรงงาน ในช่วงที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปี 2560

ขณะที่จะมีการตัดอ้อยจึงเดินทางไปกับพ่อเพื่อทำการเผาก่อนตัด จึงได้ถ่ายภาพเพื่อให้เพื่อนๆ ในเฟซบุ๊กดู เมื่อเป็นอย่างนี้แล้วต้องกราบขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากฝากให้คนอื่นอย่าได้ทำตามตัวเอง และกราบขอโทษสังคมด้วย

ด้านนายศุภชัย ลีเขาสูง นายอำเภอน้ำพอง กล่าวว่า ถือว่าเป็นการเย้ยประกาศของทางจังหวัดขอนแก่น อย่างมาก เพราะทั้งจังหวัดได้ประกาศให้เจ้าของอ้อยอย่าเผาอ้อยก่อนตัดเข้าโรงงาน เพราะสร้างมลพิษ ทั้งฝุ่น ควัน เขม่าดำ ทางจังหวัดขอนแก่นและอำเภอน้ำพองต่างช่วยกันกำจัด หรือลดฝุ่นที่เกินมาตรฐานที่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เสียงบประมาณมาจำนวนมาก เมื่อประกาศแล้วยังไม่ให้ความร่วมมือก็จะต้องทำการจับปรับ โดยไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง แต่ในเมื่อเจ้าตัวออกมารับผิดชอบแล้วก็ต้องมีการเปรียบเทียบปรับตามกฎหมาย


ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง ได้ให้พนักงานสอบสวนทำการเปรียบเทียบปรับตามข้อหา ฝ่าฝืนประกาศคำสั่งเจ้าพนักงานท้องถิ่น กระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เกิดฝุ่นละออง เขม่า เถ้า หรือกรณีอื่นใด จนเป็นเหตุให้เสื่อม หรืออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (พ.ร.บ.สาธารณสุข) จำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 2,000 บาท ซึ่งเป็นคดีลหุโทษ แต่ในชั้นพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพ จึงปรับครึ่งหนึ่งคือ 1,000 บาท