จันทบุรี- นักแสวงบุญจากทั่วสารทิศ ยังคงเดินทางขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี อบงย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนและวันที่ผ่านมา โดยวัดพลวงและวัดกระทิง ได้จัดรถยนต์บริการรับ-ส่งกว่า 408 คันตลอด 24 ชม.
วันนี้( 6 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง บนยอดเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี ของบรรดานักท่องเที่ยวและนักแสวงบุญจากทั่วสารทิศว่ายังคงคึกคักไม่ต่างจากวันแรก โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงรุ่งเช้าวันนี้ยังคงมีการเดินทางขึ้นเขาคิชฌกูฎ แบบไม่ขาดสาย โดยทางวัดพลวงและวัดกระทิง ได้จัดรถยนต์บริการรับ-ส่งกว่า 408 คัน
ทั้งนี้นักแสวงบุญ และนักท่องเที่ยวต่างพากันสัมผัสอากาศที่เย็นสบาย บนยอดเขาที่มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทที่สูงที่สุดในประเทศไทยและยังเป็นสถานที่ซึ่งพุทธศาสนิกชนต่างศรัทธาและเชื่อว่าหากได้เดินขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวงแล้ว จะประสบความสำเร็จดั่งใจหวัง จึงทำให้มีผู้เลื่อมใสและศรัทธาจากทุกสารทิศเข้ากราบไหว้ขอพร
โดยในปีนี้ได้เปิดให้ผู้แสวงบุญ ประชาชน และนักท่องเที่ยวขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. ถึง 5 เม.ษ 2562 รวม 60 วัน
สำหรับการเดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง เริ่มต้นจากการนั่งรถบริการที่วัดพลวงและวัดกระทิงไปตามถนนลูกรังที่ลาดชัดและคดเคี้ยวมาก ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 1.2 กิโลเมตร สำหรับนักแสวงบุญ และนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางขึ้นนมัสการรอยพระพุทธบาทพลวง ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม และต้องเตรียมน้ำดื่มพกติดตัวไปด้วย รวมทั้งยาดม ยาหม่อง ด้วยเช่นกัน
ส่วนการเดินทางไปเขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี จากกรุงเทพมหานคร ใช้เส้นทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 มอเตอร์เวย์ ผ่าน อำเภอบ้านบึง มุ่งสู่ อำเภอแกลง จากสามแยกแกลงให้เลี้ยวซ้าย แล้วใช้ถนนสุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข 3 เมื่อถึงทางแยกเข้าตัวเมืองจันทบุรี (สี่แยกเขาไร่ยา) เลี้ยวซ้ายเขาถนนบำราศนราดูรไปประมาณ 20 กิโลเมตร จะมีจุดจอดรถที่วัดกระทิงและวัดพลวง
นายสมชาย แซ่ลิ้ม อายุ 54 ปี ผู้แสวงบุญจากจังหวัดสมุทรปราการ ที่เดินทางมาพร้อมกับครอบครัว เล่าว่า ด้วยแรงศรัทธาในรอยพระพุทธบาทพลวงเขาคิชฌกูฎ ทำให้ตนเองและครอบครัวเดินทางมาสถานที่ดังกล่าวเป็นปีที่ 4 แล้ว โดยได้มาขอพรให้ประสบความสำเร็จทุกครั้ง
