xs
xsm
sm
md
lg

เผาแล้ว 3 ศพ! เด็กแฝดสุรินทร์ถูกพ่อกรอกยาพิษก่อนฆ่าตัวตายตาม เมียเผยไม่คิดฆ่าลูกตัวเองได้

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สุรินทร์ - เผาแล้วทั้ง 3 ศพ เด็กฝาแฝดถูกพ่อจับกรอกยาพิษก่อนฆ่าตัวตายตาม แม่เผยสามีขู่จะฆ่าลูกและตัวเองก่อนเกิดเหตุ 1 วัน เหตุโกรธที่แยกกันอยู่เพราะสามีเอารถพ่อแม่ไปจำนำ ติดพนันไม่ทำงาน แต่ไม่คาดคิดจะฆ่าลูกตัวเองได้

วันนี้( 2 ก.พ. ) ที่วัดดาราธิวาส บ.ขนาดมอญ ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้มีพิธีฌาปนกิจศพ 2 เด็กชายฝาแฝด คือ ด.ช.จิรณัฐ หรือ น้องนินจา โสรจันทร์ และ ด.ช.จิรนันท์ หรือน้องโชกุน โสรจันทร์ วัย 1 ขวบ 7 เดือน ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่บิดา คือ นายสมชาย พิมเงิน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.16 บ.บักจรัง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กรอกยาพิษ ผสมกับน้ำอัดลมให้ดื่ม ก่อนพ่อจะดื่มยาพิษฆ่าตัวตายตาม รวม 3 ศพ พร้อมทิ้งจดหมายลาตายไว้ด้วย ภายในบ้านเลขที่ 163 ม.16 บ.บักจรัง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 31 ม.ค. ที่ผ่านมา หลังจากมีปัญหาครอบครัวต้องแยกทางกันกับนางสาวจิราภรณ์ โสรจันทร์ ภรรยาผู้ตาย อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/3 ม.2 บ.ตาเมา ต.ตาตุม อ.สังขะ จ.สุรินทร์


โดยพิธีฌาปนกิจจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของครอบครัว ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน ซึ่งศพของเด็กชายฝาแฝดต้องทยอยเผาทีละศพ ขณะที่ น.ส.จิราภรณ์ โสรจันทร์ ผู้เป็นแม่ยังคงร้องไห้ เป็นลมล้มฟุบเพราะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ นายอรรถสิทธิ์ ลัมภเวช นักสังคมสงเคราะห์ จ.สุรินทร์ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ไปพบนางสาวจิราภรณ์ ที่งานศพ เพื่อสอบถามและตรวจสอบข้อมูล เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ ในเหตุการณ์สูญเสียที่เกิดขึ้น พร้อมจะได้ประสานนักจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องเข้าดูแลเยียวยาสภาพจิตใจของผู้เป็นแม่ ซึ่งการช่วยเหลือจะเป็นไปตามระเบียบ และจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ต้องการช่วยเหลือผู้เป็นแม่ต่อไป

ส่วนศพของ นายสมชาย พิมเงิน อายุ 45 ปี ได้มีพิธีฌาปนกิจศพในวันนี้เช่นกัน ที่วัดบ้านเกิด ภายในหมู่บ้าน บักจรัง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์

น.ส.จิราภรณ์ โสรจันทร์ แม่ของ 2 เด็กชายฝาแฝดที่เสียชีวิต เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า สาเหตุที่แยกกันอยู่กับสามีมาร่วม 1 เดือน เนื่องจากทะเลาะกันเรื่องที่สามีเอารถยนต์ของพ่อแม่ไปจำนำ ส่วนสามีติดการพนัน ไม่ทำงานทำงาน ไม่ค่อยช่วยดูแลเลี้ยงลูกและไม่รับผิดชอบอะไร ที่ผ่านมาไม่เคยทุบตีตนและลูก โดยเมื่อวันที่ 29 ม.ค. สามีได้มาขอรับลูกกลับไปเล่นด้วย ตนก็ให้ไป จากนั้นสามีโทรศัพท์มาบอกว่า ไม่ต้องห่วง พาลูกมาถึงบ้านแล้ว ตนก็ไม่ได้เอะใจ พอตกเย็นเขาโทรฯ มาขู่อีกว่า ตอนนี้อยู่ที่เขื่อนกับลูก กูจะฆ่าลูก กูจะฆ่าตัวเอง กูไม่ต้องการมึงแล้ว และแช่งตนสารพัด ไม่ให้ตนไปทำบุญเขากับลูก ตนไม่คิดว่าเขาจะทำ ตนก็บอกไปว่า พี่อย่าพูดแบบนี้ หนูยอมหมดแล้ว พี่จะให้หนูทำอะไรก็ได้ ซึ่งวันนั้นมันดึกแล้วตนไม่กล้าไป พอเช้าวันที่ 30 ม.ค. เขาก็โทรฯ มาอีก เขาถามว่าอยู่ไหน ตนบอกว่าตนทำงานอยู่ ไปตัดดอกดาวเรือง ในไร่กับแม่ และเขาบอกว่า ให้ตนมารับลูกนะตอนเย็นๆ แต่วันนั้นตนไม่ได้ไป

ตนไม่คิดว่าเขาจะทำ เพราะเป็นลูกของเขา ที่เขาทำน่าจะโกรธตนเอง ที่พาลูกมาอยู่ที่บ้านแม่มากกว่า พอไปตอนเช้ากับแม่ ไม่คิดว่าจะไปเห็นภาพแบบนั้น ตนตั้งใจว่าจะไปคุยกัน พอไปถึง ก็เคาะประตู ไม่มีใครตอบ ได้ยินแต่เสียงทีวี เรียกหา โทรฯ หา ก็ไม่รับ เลยไปส่องดูที่หน้าต่างจึงเห็น และ รีบตะโกนบอกชาวบ้านให้รีบมาช่วย ตนพยายามคิดว่าลูกคงไม่เป็นอะไรหรอก ตนพยายามเอาไม้ทุบประตูบ้านเพื่อจะเข้าไป แต่เปิดไม่ได้ ก็โทรฯบอกตำรวจ ตำรวจบอกว่าให้ใจเย็นๆนะ ให้เรียกคนแถวนั้นมาช่วยก่อน เผื่อเด็กยังไม่เป็นอะไร แต่ยังไม่มีใครมาช่วยงัด ตนจึงเอาไม้ทุบตีประตูอีกจนเปิดออก ตนคิดอย่างเดียวว่าจะต้องรีบเอาลูกออกไปหาหมอโดยเร็วที่สุด จากนั้นตำรวจมา และเอาขึ้นรถตำรวจไปหาหมอ ตอนนั้นไม่รู้ว่าลูกยังมีลมหายใจหรือไม่ คิดแค่ว่าลูกยังไม่ตาย ลูกยังมีชีวิตอยู่

แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำกับลูกได้ เขาเคยถามว่ามีใครใหม่หรือยัง ตนตอบว่าไม่มีใคร ขอมาอยู่บ้านกับแม่สักพัก โดยส่วนตัวเขาเป็นคนขี้น้อยใจ ซึ่งถ้าหากตนไปหาเขาก่อนหน้านี้ เขาอาจจะฆ่าตนด้วยทั้งครอบครัวก็ได้ ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับใครอีก





กำลังโหลดความคิดเห็น