ศูนย์ข่าวขอนแก่น - สักขีพยาน 15 ท่านร่วมทำพิธีเก็บเถ้าอัฐิครูใหญ่หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ก่อนเคลื่อนขบวนเดินทางไปลอยอังคารแม่น้ำโขง จ.หนองคาย โดยจะวางกล่องอัฐิบนแท่นตั้งริมโขงให้ชาวหนองคายและชาวลาวกราบสักการะเถ้าอัฐิหลวงพ่อนาน 2 ชั่วโมง
ภายหลังพิธีถวายเพลิงศพครูใหญ่ พระเทพวิทยาคม หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ที่เมรุลอยชั่วคราว ด้านหลังพุทธมณฑลอีสาน จ.ขอนแก่น เสร็จสิ้นตามขนบโบราณตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ม.ค. 62) โดยมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าเวรยามเฝ้าเมรุลอยฯ อย่างใกล้ชิดเพื่อป้องกันประชาชนเข้าไปใกล้บริเวณต้องห้าม และล่าสุดแต่เช้าตรู่วันนี้ (30 ม.ค. 62) คณะสักขีพยานจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปร่วมพิธีเก็บเถ้าอัฐิครูใหญ่หลวงพ่อคูณ
สำหรับสักขีพยานในพิธีจัดเก็บเถ้าอัฐิครูใหญ่ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ มีทั้งหมด 15 ท่าน ประกอบด้วย
1. พระครูศรีปริยัติวิสุทธิ์ 2. พระครูคชสารวรานุสิฐ 3. นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าฯ ขอนแก่น 4. รศ.นพ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ 5. เจ้าคุณธงชัย พระพรหมมังคลาจารย์ 6. พระธรรมวิสุทธาจารย์ 7. นายประทีป วงษ์กาญจนรัตน์ (หลานหลวงพ่อคูณ)
8. นายสมศักดิ์ ปริสุทโธ เหมทานนท์ อดีตผู้ว่าฯ จ.ตรัง 9. นายฉัตรชัย อุ่นเจริญ นายอำเภอเมืองขอนแก่น 10. นายสมบูรณ์ โสตธิอนันต์ นายอำเภอด่านขุนทด 11. นายไพฑูรย์ มหาชื่นใจ 12. นายจู ปริสุทธชาติ 13. นายธวัช เรืองหร่าย 14. นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย และ 15. คุณยายคำมั่น กาญจนรัตน์ (น้องสาวหลวงพ่อคูณ)
ภายหลังเก็บเถ้าอัฐิเสร็จในเวลาประมาณ 08.40 น. ขบวนรถได้ออกเดินทางนำเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณไปลอยอังคารกลางลำน้ำโขง จ.หนองคาย โดยไม่จอดแวะพักระหว่างทางแต่อย่างใด คาดว่าจะถึงบริเวณหน่วยเรือรักษาความสงบลำน้ำโขง (นรข.) ก่อนเที่ยงวันเดียวกันนี้ โดยมีรถตำรวจนำขบวน ตามด้วยรถจัดเก็บกล่องเถ้าอัฐิ หลังจากนั้นเป็นขบวนรถตู้ของคณะสักขีพยานที่จัดเก็บอัฐิ และรถบัสของลูกศิษย์ที่ใกล้ชิด ปิดท้ายขบวนด้วยพยาบาล
เมื่อขบวนเดินทางไปถึงปลายทางแล้ว จะมีการอัญเชิญกล่องบรรจุเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณขึ้นวางบนแท่นที่เตรียมไว้ โดยไม่ได้มีการประกอบพิธีอื่นใด ระหว่างนี้จะเปิดโอกาสให้ประชาชน พุทธศาสนิกชน ลูกศิษย์ลูกหาหลวงพ่อคูณทั้งชาวไทยและชาวลาวได้กราบไหว้สักการะเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณเป็นเวลา 2 ชั่วโมง ถวายภัตตาหารเพลพระสงฆ์ จากนั้นจะอัญเชิญกล่องบรรจุเถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณลงเรือ ล.169 (เรือลาดตระเวน 169) ของ นรข. โดยจะมีพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 4 รูป
ประกอบด้วย พระราชรัตนาลงกรณ์ เจ้าคณะจังหวัดหนองคายฝ่ายมหานิกาย, พระกิตติสารโสภณ เจ้าคณะจังหวัดหนองคายฝ่ายธรรมยุต, พระศรีวชิรโมฬี รองเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย และพระครูภาวนาธรรมโฆษิต เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดหนองคาย, ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย, วัฒนธรรมจังหวัดหนองคาย, อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น, ผู้ถือกุญแจกล่องบรรจุอัฐิ 4 คน, เจ้าหน้าที่ นรข. รวมแล้วเรือ ล.169 ซึ่งเป็นเรือหลักจำนวนผู้ลงเรือไม่เกิน 15 คน
ขบวนเรือจะเคลื่อนออกจากท่าเทียบเรือ นรข. โดยมีเรือเจ้าท่าหนองคายเป็นเรือนำขบวน ตามด้วยเรือ ล.169, เรือ นรข. ขนาบด้วยเรือตำรวจน้ำ, เรือตรวจคนเข้าเมือง รวม 8 ลำ และเรือเอกชนที่พาลูกศิษย์คนใกล้ชิดลงเรือจำนวน 10 ลำ ลำละ 25 คน ตามอยู่ท้ายขบวน ขบวนเรือจะลอยทวนน้ำโขงไปถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ระยะทางจากท่าเทียบเรือ นรข. 5 กิโลเมตร เพื่อให้ประชาชนที่อยู่บนฝั่งได้กราบไหว้เถ้าอัฐิหลวงพ่อคูณ
จากนั้นจะหันหัวเรือกลับล่องมาตามแม่น้ำโขงจนถึงพระธาตุหล้าหนอง หรือพระธาตุกลางน้ำ ขบวนเรือจัดริ้วขบวน โดยมีเพียงเรือ ล.169 วนรอบองค์พระธาตุ 3 รอบ ทำการโปรยเถ้าอัฐิลงในแม่น้ำโขง เมื่อครบ 3 รอบจะลอยลำกลับเข้าเทียบท่าเช่นเดิม เป็นอันเสร็จพิธี ขบวนเรือทั้งขาขึ้นและขาล่องนี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง จึงคาดว่าจะแล้วเสร็จพิธีลอยอังคารก่อนพระอาทิตย์ตกดิน