ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-แชร์ว่อนคลิปรถยนต์นิสสันสีขาวชนจักรยานยนต์แล้วหนีกลางดึกบนถนนวงแหวนเชียงใหม่ วอนโซเชียลช่วยตามล่า ขณะที่ผู้เสียหายเป็น พนง.โรงแรม เผยนาทีชีวิตล้มฟาดพื้นโชคดีแค่บาดเจ็บ พร้อมทวงถามมนุษยธรรม
จากกรณีที่ผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่จังหวัดเชียงใหม่มีการช่วยกันเผยแพร่และแชร์ภาพคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่รถยนต์คันหนึ่งขับเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์หลบหนีไป โดยไม่มีการจอดลงมาดูคนขับรถจักรยานยนต์ที่ได้รับบาดเจ็บและรถเสียหาย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกคืนวันที่ 24 ม.ค.62 บนถนนวงแหวนสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ช่วงจากแยกรวมโชคมุ่งหน้าไปศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ บริเวณฝั่งตรงข้ามบ้านเอื้ออาทรสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่
โดยที่พลเมืองดีสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้เนื่องจากสังเกตเห็นความผิดปกติของรถยนต์ที่มีการขับส่ายไปมาคล้ายคนเมาตั้งแยกรวมโชคแล้วจนกระทั่งเกิดเหตุ จากนั้นจึงมีการนำเผยแพร่เพื่อให้ช่วยกันติดตามและแจ้งเบาะแสของรถยนต์คันที่ก่อเหตุแล้วหลบหนีไป โดยเบื้องต้นพบว่าเป็นรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน สีขาว ทะเบียน งค 4011
ทั้งนี้ล่าสุดจากการตรวจสอบทราบว่าคนขับรถจักรยานยนต์ที่ถูกรถยนต์ชนแล้วหลบหนีไปนั้น คือ นายรังสรรค์ พรหมอนันต์ อายุ 23 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 00.30 น.ตัวเองเพิ่งเลิกงานออกจากโรงแรงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุและกำลังเดินทางกลับที่พัก โดยขี่รถจักรยานยนต์มาตามเส้นทางและชิดซ้ายอยู่ตลอด แต่อยู่ๆ รถยนต์คันดังกล่าวที่ขับมาตามได้เฉี่ยวชนตัวเองจนล้มแล้วหลบหนีไปเลย
ซึ่งยังโชคดีที่รถยนต์อีกคันที่ขับตามหลังมาได้จอดลงมาให้การช่วยเหลือ อีกทั้งยังมีการถ่ายคลิปวิดีโอการขับของรถยนต์คันดังกล่าวไว้ตลอดด้วยตั้งแต่แยกรวมโชค เนื่องจากเห็นว่าขับขี่ผิดปกติส่ายไปมาตลอดเหมือนคนเมา จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น ซึ่งตัวเองจึงได้ใช้คลิปวิดีโอดังกล่าวมาเป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีและติดตามหาตัวคนขับรถยนต์คันที่ก่อเหตุต่อไป
นายรังสรรค์ บอกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองในครั้งนี้ทำให้ได้รับบาดเจ็บฟกช้ำและเป็นแผลหลายจุดทั่วร่างกาย ทั้งใบหน้า แขน ขา และลำตัว รวมทั้งรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงจนถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิต ทั้งนี้ยอมรับว่ารู้สึกโกรธและโมโมอย่างมากที่คนขับรถยนต์คันดังกล่าวชนตัวเองแล้วหลบหนีไปโดยไม่มีการจอดลงมาให้การช่วยเหลือหรือเหลียวแลใดๆ ทั้งสิ้น
เพราะอย่างน้อยตามหลักมนุษยธรรมควรจะต้องจอดรถลงมาดูบ้างว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บหรือต้องการความช่วยเหลือใดๆ หรือไม่ เนื่องจากช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงกลางดึกและไม่ได้มีผู้คนพลุกพล่าน ซึ่งหากตัวเองบาดเจ็บหนักและไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์ อาจจะเกิดการสูญเสียโดยที่ไม่มีผู้รับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ก็ได้
อย่างไรก็ตามนายรังสรรค์ เปิดเผยว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามสืบทราบแล้วว่าผู้ขับรถยนต์คันที่ก่อเหตุคือใคร และเบื้องต้นทางคนขับรถได้ติดต่อมาพูดคุยทางโทรศัพท์กับตัวเองแล้วครั้งหนึ่ง อ้างว่าที่ไม่ได้จอดรถลงมาดูเนื่องจากไม่รู้ตัวว่าขับเฉี่ยวชนรถของตัวเอง แต่มาทราบในช่วงเช้าหลังจากที่ตื่นนอนมาพบว่ารถยนต์มีร่องรอยการชน และได้รับการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยยอมรับว่าในช่วงก่อนเกิดเหตุได้ดื่มมาเล็กน้อย แต่ที่เกิดเหตุนั้นเป็นเพราะหลับใน ทั้งนี้ตัวเองและคู่กรณีที่เป็นคนขับรถยนต์ได้มีการนัดพบกันที่สถานีตำรวจในวันที่ 28 ม.ค.62 เพื่อพูดคุยกันเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น.
