สุรินทร์- บุกพิสูจน์สถานีรถไฟสุรินทร์ แหล่งขาย “ข้าวหลามซากจิ้งเหลน” ตายในกระบอก ทำสะอิดสะเอียนกันทั้งโลกออนไลน์ เผยแม่ค้ารับข้าวหลามจากแหล่งผลิต 3 จังหวัดมาเร่ขาย แต่คาดข้าวหลามจิ้งเหลนผลิตในพื้นที่ จ.สุรินทร์เอง
วันนี้ (24 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีโลกโซเชียลมีเดียมีการโพส์ตข้อความพร้อมคลิปวิดีโอและภาพนิ่ง ระบุว่า “วันที่ 22/01/2019 ได้ซื้อข้าวหลามต้นทางที่สถานีรถไฟสุรินทร์จากแม่ค้าคนหนึ่ง ช่วงประมาณตี 4 กระบอกละ 20 บาท 6 กระบอก 100 พอกลับมาถึงบ้านที่นนทบุรี คุณแม่กำลังจะแกะข้าวหลามมาวางใส่จาน ภาพอย่างที่เห็นเลยค่ะ มิติใหม่ของข้าวหลาม อวสานอาหารเย็น จะอ้วก สาบานเลย ชาตินี้จะไม่ซื้อข้าวหลามกินตลอดชีวิต สะอิดสะเอียนมากๆ ลองนึกสภาพถ้ากัดข้าวหลามแล้วมันเข้าไปอยู่คาปาก จะทำยังไง...‼ชุ่ยๆ มักง่าย‼.. สักแต่ว่าขายไม่คำนึงถึงผู้บริโภคและความสะอาด #มีหน่วยงานไหนรับร้องเรียนเรื่องนี้บ้างไปตรวจสอบทีสถานที่สกปรกแบบนี้ เอามาขายให้ผู้บริโภคได้อย่างไรคะ” ซึ่งมีการแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก
ต่อมาทราบว่าผู้ที่ซื้อข้าวหลามดังกล่าวคือ นางจันโท แก้วพวง อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 หมู่ 8 ต.บ้านปรือ อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ โดยได้ไปพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านชวนชื่นทาวน์ ถนนแก้วอินทร์ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และหลังจากกลับไปเยี่ยมญาติที่ จ.สุรินทร์ จึงได้ซื้อข้าวหลามแถมซากจิ้งเหลนตายอยู่ในกระบอกดังกล่าวที่สถานีรถไฟสุรินทร์นำกลับไปที่ จ.นนทบุรี
ล่าสุดผู้สื่อข่าวประจำ จ.สุรินทร์ได้ลงพื้นที่ไปยังสถานีรถไฟสุรินทร์ พบบรรดาแม่ค้าที่ขายข้าวหลาม ถั่วต้ม ขนมต่างๆ และของจิปาถะแบบหาบเร่ขายอยู่เป็นจำนวนมากต่างขึ้นลงรถไฟกันไปมาอยู่ตลอดเวลา สอบถามนางเตี้ย แสนศรี แม่ค้าหาบเร่ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 ม.5 ต.สิงโคก อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด เปิดเผยว่า การทำข้าวหลามหากคนทำไม่เคาะกระบอกไม้ไผ่ตรวจดูให้ดีก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่จิ้งเหลนจะนอนขดอยู่ด้านในกระบอก ซึ่งอยากให้คนทำข้าวหลามใส่ใจความสะอาดและตรวจดูไม้ไผ่ให้ดีทุกกระบอก เพราะจะทำให้เสียลูกค้า ส่วนข้าวหลามที่ตนขายรับมาจากพ่อค้า อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ที่มาส่งที่ตลาดสดสุรินทร์ เท่าที่ขายมายังไม่เคยเจอลักษณะแบบนั้น ตนไม่ได้ขึ้นรถไฟไปขายเพราะมาเช่าบ้านกับเพื่อนๆ อยู่ในสุรินทร์ และหาบมาขายที่สถานีรถไฟและในตัวเมืองสุรินทร์
ส่วนแม่ค้าที่มาขายในช่วงเวลาตี 4-5 นั้นน่าจะเป็นกลุ่มแม่ค้าที่รับข้าวหลามมาจากบ้านท่าศิลา ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพราะจะมากันแต่เช้าเพื่อรอขึ้นรถไฟไปขายทาง จ.บุรีรัมย์ และ จ.นครราชสีมา ซึ่งอย่างไรก็ตาม อยากให้คนที่ทำข้าวหลามใส่ใจในเรื่องความสะอาดด้วย
ด้านแม่ค้าขายข้าวหลามอีกรายหนึ่งเป็นชาว จ.ศรีสะเกษ ไม่ขอเปิดเผยชื่อ และเพิ่งเดินทางด้วยรถไฟมาจาก จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาหาบเร่ขายข้าวหลาม ขนมและของกินจิปาถะในเขตตัวเมืองสุรินทร์ เปิดเผยว่า ที่สถานีรถไฟสุรินทร์จะมีบรรดาแม่ค้าหาบเร่ขายของมาจากหลายจังหวัด ทั้งใน จ.สุรินทร์ ศรีสะเกษ และร้อยเอ็ด ที่รวมตัวกันมา แต่อาจจะมาคนละเวลากัน ส่วนข้าวหลามนั้นจะมีพ่อค้ามาส่งที่ตลาดสดสุรินทร์ ซึ่งมาจากพื้นที่ อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม, จากบ้านท่าศิลา ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ และมาจาก อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ
แต่ในช่วงเวลาที่ผู้โพสต์ระบุว่าซื้อข้าวหลามช่วงเวลาประมาณตี 4 ตี 5 นั้น สงสัยน่าจะเป็นข้าวหลามมาจาก บ.ท่าศิลา ต.เมืองแก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพราะพ่อค้าคนที่มาขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟสุรินทร์ตี 5 เพื่อไปขายต่อทางบุรีรัมย์-โคราชน่าจะเป็นคนอยู่ที่สุรินทร์ ซึ่งตนอยากให้คนทำข้าวหลามดูไม้ไผ่และเคาะให้ดี ทำให้สะอาด คนที่รับมาขายไม่รู้เรื่องเพราะทำหน้าที่ขายอย่างเดียว จึงอยากให้ดูแลความสะอาด ซึ่งจะไม่ทำให้เสียลูกค้าเพราะคนกินอยากกินของสะอาดทั้งนั้น