xs
xsm
sm
md
lg

เปิดประวัติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ถ้ำม้าร้อง หนึ่งใน 107 แห่งทั่วประเทศ ประกอบในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประจวบคีรีขันธ์ - เปิดประวัติบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ถ้ำม้าร้อง หนึ่งใน 107 แห่งทั่วประเทศ ผู้ว่าฯ ประจวบฯ ลงพื้นที่สำรวจเตรียมความพร้อมให้สมพระเกียรติ ก่อนทำพิธีอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

หลังจากที่กระทรวงมหาดไทย เตรียมการให้จังหวัดได้สำรวจแหล่งน้ำต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งหมด 107 แห่ง และกรุงเทพมหานคร 1 แห่ง รวมเป็น 108 แห่ง โดยกำหนดการเบื้องต้น ในวันที่ 6 เมษายน 2562 จะเป็นพิธีพลีกรรมตักน้ำทั่วประเทศพร้อมกัน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงได้สำรวจถ้ำม้าร้อง และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีน้ำใสสะอาด มีน้ำตลอดทั้งปี และเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนในพื้นที่ เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อม ความเรียบร้อย และพัฒนาทำความสะอาด ทำให้เกิดความเหมาะสม และสมพระเกียรติ ก่อนจะทำพิธีอัญเชิญน้ำศักดิ์สิทธิ์ไปประกอบในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ 4-6 พฤษภาคม 2562

วัดถ้ำม้าร้อง มีประวัติเป็นที่พักสงฆ์มาแต่โบราณกาล ตั้งแต่สมัยที่พระพุทธศาสนาเริ่มเข้าสู่แหลมทอง พระภิกษุสงฆ์ชาวศรีลังกาและอินเดีย ได้เดินทางเข้ามาเผยแผ่พุทธศาสนาในประเทศไทย และประเทศพม่า พระสงฆ์ที่เผยแผ่พุทธศาสนา จึงใช้เป็นที่พักพิงในขณะเดินทาง ต่อมา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ได้ออกปราบพวกโจรตามหัวเมืองต่างๆ

ในระหว่างปี พ.ศ.2385 ถึงปี พ.ศ.2387 เจ้าพระยาบดินทรเดชา ได้นำทัพมาพักที่บ้านหนองหัดไทย ปรากฏว่า ม้าของท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชาได้หายไป จึงได้สั่งให้ทหารออกตามหาแต่ก็ไม่พบ ได้ยินแต่เสียงม้าร้องภายในภูเขาลูกนี้ แม้จะส่งทหารเข้าไปค้นหาอย่างไรก็ไม่พบ แต่ได้ยินเสียงม้าร้องเท่านั้น ภูเขาลูกนี้จึงได้ถูกขนานนามว่า เขาถ้ำม้าร้อง

ภายในถ้ำม้าร้องมีหลายคูหา มีหินงอกหินย้อยและมีผู้ดูแลติดตั้งไฟฟ้าเพื่อให้ส่องสว่างแก่นักท่องเที่ยว โดยภายในถ้ำจะมีพระพุทธรูปปางสมาธิเรียงรายตลอดแนวอยู่ชิดผนังถ้ำ และมีหินย้อยรูปร่างลักษณะคล้ายหัวม้าอยู่ภายในถ้ำหากเดินตรงเข้าไปในถ้ำแล้วเลี้ยวไปทางขวามือ ประมาณ 20-30 เมตร และเลี้ยวซ้ายจะเห็นลักษณะหินย้อยที่มีรูปร่างคล้ายหัวม้า และมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่นำไปใช้ในงานพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น งานพิธีครบรอบ 60 พรรษา และ 72 พรรษา และที่น่าแปลกใจคือ น้ำที่บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จะไม่มีวันแห้ง

ปัจจุบัน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้สนับสนุนให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาสัมผัสความสวยงามของหินงอกหินย้อย และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้





กำลังโหลดความคิดเห็น