เชียงราย - รอง ผบ.ตร. นำทีมแถลงโชว์ผลงานรวบ 2 พี่น้องชาวโคราชสุดแสบ ขับรถทัวร์ขนยานรกเกือบ 3 ล้านเม็ด พบใช้ทั้งรถกระบะ-รถทัวร์-รถห้องเย็น-รถพืชผลการเกษตร ขนยาบ้าส่งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มาแล้วหลายรอบ
วันนี้ (21 ม.ค.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด ตร., พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส., พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส., พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.เชียงราย, นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าฯ จ.เชียงราย พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลคดียาเสพติดคดีสำคัญ
โดยมีของกลาง คือ ยาบ้าประทับตรา 999 พร้อมรูปดาวและฝิ่นสีแดง 17 กระสอบ 1,414 มัด รวม 2,828,000 เม็ด, รถยนต์กระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีเทา ทะเบียน ผค 6604 เชียงราย, รถทัวร์โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-เชียงราย หมายเลขทะเบียน 10-1294 ปทุมธานี, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง ทะเบียน ขงฉ 192 เชียงราย, โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย ที่จับกุมได้ คือ นายพร้อม รัตนกระจ่าง อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 66 หมู่ 4 9 ต.พะเนา อ.เมืองนครราชสีมา และ นายธนาธิป รัตนกระจ่าง อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 150 หมู่บ้านเดียวกัน
การจับกุม เมื่อตำรวจ ปส. สืบทราบว่า ขบวนการค้ายาเสพติดเครือข่ายรถทัวร์โดยสารที่เคยก่อเหตุขนยาบ้ามาแล้วหลายครั้ง จะขนยาบ้าจำนวนมากจากเชียงราย ส่งเครือข่ายในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จึงเฝ้าติดตามจนพบรถทัวร์โดยสารของกลาง ที่ นายพร้อม และ นายธนาธิป สองพี่น้อง ขับมาตามถนนพหลโยธิน ทำทีเข้าไปจอดภายในสถานีขนส่งผู้โดยสาร จ.เชียงราย แห่งที่ 2 ต.สันทราย อ.เมืองเชียงราย จากนั้นได้ขับออกจากสถานีไปจอดพักอยู่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งพื้นที่ ต.สันทราย ไม่ห่างจากสถานีขนส่งฯมากนัก ก่อนจะมีรถยนต์กระบะของกลางขับเข้าไปเทียบ แล้วรถยนต์กระบะได้ขับออกไปจากปั๊ม
เจ้าหน้าที่เห็นผิดสังเกต จึงเข้าคุมตัว นายพร้อม และ นายธนาธิป ซึ่งกำลังนั่งรับประทานก๋วยเตี๋ยวอยู่บริเวณปั๊มน้ำมันได้ พร้อมนำรถออกไล่ติดตาม ปรากฏว่า รถยนต์กระบะไหวตัวขับหลบหนีขึ้นสายเหนือไปตามถนนพหลโยธิน ก่อนจะขับหลบหนีไปทางถนนทวีรัตน์ ต.แม่ยาว อ.เมืองเชียงราย ก่อนจะเสียหลักพุ่งลงไปข้างทาง แต่คนขับเปิดประตูหนีไปได้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจค้นรถพบของกลางยาบ้าจำนวนมากดังกล่าว
พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามแผนบูรณาการความร่วมมือในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือระยะเวลา 3 เดือน คือ ตั้งแต่เดือน พ.ย. 2561-ก.พ. 2562 ที่จะดำเนินการอย่างเข้มข้น
ด้าน พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวว่า ต่อไปนี้เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบยานพาหนะต้องสงสัยทุกชนิด เพราะขบวนการค้ายาเสพติดเปลี่ยนวิธีไปเรื่อยๆ ใช้ยานพาหนะทุกรูปแบบ จึงต้องสืบสวนเพื่อปราบปรามให้ถึงที่สุดต่อไป
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า เครือข่ายยาเสพติดรายนี้ มีพฤติกรรมขนยาเสพติดมาต่อเนื่องและทำมาแล้วหลายครั้ง โดยใช้ทั้งรถโดยสารประจำทาง รถบรรทุกห้องเย็น รถขนพืชผลทางการเกษตร ฯลฯ แล้วขนยาเสพติดขนปนไปกับนักท่องเที่ยวหรือผู้โดยสาร ส่งเครือข่ายที่กรุงเทพฯ และพื้นที่ใกล้เคียง กระทั่งเจ้าหน้าที่สืบทราบความเคลื่อนไหวล่วงหน้าว่าจะขนส่งโดยรถโดยสารประจำทางดังกล่าว แต่ต่อมามีการขนถ่ายใส่รถยนต์กระบะ และเจ้าหน้าที่ทราบว่าจะนำไปเก็บในแหล่งพักยาแล้วจะมีรถยนต์ทยอยขนต่อเป็นทอดๆ จึงเข้าสกัดจับกุมได้ก่อนดังกล่าว
