ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-สาวสวยเปิดใจจากจุดชีวิตดำดิ่ง ป่วยโรคซึมเศร้า กินยาฆ่าตัว รอดมาได้เข้ารับการรักษากับจิตแพทย์แนะนำให้ออกกำลังกายเมื่อ 4 ปีก่อน จากนั้นเริ่มวิ่งมาอย่างต่อเนื่องจากคนไม่เคยเล่นกีฬา ปัจจุบันร่วมวิ่งกว่า100รายการแล้ว
ขณะนี้บรรดาผู้ใช้โซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการวิ่งออกกำลังกายกำลังมีการพูดถึงนักวิ่งสาวคนหนึ่ง ทั้งเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่สวยน่ารัก และเรื่องราวจุดเริ่มต้นการวิ่งออกกำลังกายของสาวรายนี้ ที่เริ่มจากการป่วยด้วยโรคซึมเศร้าและเข้ารับการรักษาตัวกับจิตแพทย์ โดยนอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว จิตแพทย์ยังแนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย ซึ่งนักวิ่งสาวคนนี้ทำตาม จากเริ่มวิ่งเพียงเล็กๆ น้อยๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มระยะทางวิ่งมากขึ้น รวมทั้งเข้าร่วมวิ่งรายการต่างๆ ที่มีการจัดขึ้นทั้งที่เชียงใหม่และจังหวัดอื่นๆ จนกระทั่งปัจจุบันนี้เธอหายป่วยจากโรคซึมเศร้าแล้ว โดยในเฟซบุ๊คของนักวิ่งสาวคนนี้ที่ใช้ชื่อว่า “Whichwara Wirasapkun” พบว่ามีผู้ที่ติดตามมากกว่า10,000คน
จากการตรวจสอบพบว่านักวิ่งสาวคนดังกล่าวคือ นางสาววิชญ์วรา วีรทรัพย์กุล หรือ “น้องยิ้ม” อายุ 31 ปี อาชีพดีเทลของบริษัทยาและผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์แห่งหนึ่ง รับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งเปิดเผยว่า จุดเริ่มต้นที่ทำให้ตัวเองกลายเป็นนักวิ่งอย่างทุกวันนี้ เริ่มมาจากการที่ตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งครั้งแรกไม่ทราบว่าป่วย เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้ว ทั้งๆ ที่ชีวิตในเวลานั้นถือว่าดีทุกอย่างทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องงาน แต่เวลานั้นกลับรู้สึกท้อแท้ ไม่มีกำลังใจในชีวิต ไม่อยากพบปะผู้คน อยากเก็บตัวอยู่เพียงลำพัง และอยากนอนอย่างเดียว ร้ายแรงจนถึงขั้นสุดท้ายตัดสินใจกินยานอนหลับไปหนึ่งกำมือเพื่อหวังจะฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ได้รับการช่วยเหลือและรอดชีวิตมาได้
หลังจากนั้นได้เริ่มไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อปรึกษาและรักษาตัว ซึ่งรับการวินิจฉัยว่าตัวเองป่วยเป็นโรคซึมเศร้า พร้อมทั้งรับการรักษาด้วยการรับประทานยา ขณะเดียวกันจิตแพทย์ยังได้แนะนำให้ออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากสำหรับตัวเองเพราะว่าเล่นกีฬามาเป็นแม้แต่ประเภทเดียวและไม่เคยออกกำลังกายมาก่อน จึงเริ่มต้นด้วยการวิ่งออกกำลังกายเพราะว่าง่ายที่สุด โดยหารองเท้าผ้าใบลำลองที่มีอยู่แล้วมาใส่แล้วออกวิ่งรอบสนามได้เพียงครั้งละประมาณ 2 รอบเท่านั้น ซึ่งยังคงรู้สึกว่าไม่มีแรงจูงใจมากพอ
จนกระทั่งในช่วงนั้นมีการจัดวิ่งรายการ CMU Marathon จึงตัดสินใจลองสมัครเข้าร่วมการวิ่งในรายการดังกล่าวด้วยในประเภทระยะทางวิ่ง 10 กิโลเมตร เพื่อหวังสร้างแรงจูงใจและกระตุ้นตัวเอง ซึ่งเมื่อสมัครวิ่งแล้วได้มีการฝึกซ้อมวิ่งมากขึ้นตามลำดับ จากครั้งละ 2-3 กิโลเมตร เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนมากสุดประมาณ 7 กิโลเมตร แล้วเข้าร่วมการวิ่งรายการดังกล่าว ซึ่งผลปรากฏว่าตัวเองสามารถวิ่งระยะทาง 10 กิโลเมตรและเข้าสู่เส้นชัยได้ แม้ว่าจะใช้เวลาค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตามความรู้สึกในช่วงเวลานั้นมีความภาคภูมิใจและรู้สึกดีกับตัวเองเป็นอย่างมาก ซึ่งตัวเองมีความสุขและชอบความรู้สึกนั้นมาก จึงเกิดแรงผลักดันให้ชื่นชอบการวิ่ง และพยายามฝึกซ้อมวิ่งให้ได้ทุกวัน จนถึงปัจจุบันได้ร่วมวิ่งรายการต่างๆ รวมแล้วกว่า 100 รายการ หากเป็นการวิ่งเส้นทางถนน ระยะทางมากสุด 12 กิโลเมตร และเส้นทางเทรล ระยะทางมากสุด 66 กิโลเมตร ซึ่งได้เหรียญรางวัลจากการร่วมวิ่งรายการต่างๆ เป็นจำนวนมาก
ส่วนอาการป่วยโรคซึมเศร้านั้น “น้องยิ้ม” บอกว่า นับตั้งแต่ที่เริ่มออกกำลังกายด้วยการวิ่งอาการป่วยดีขึ้นตามลำดับอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งตลอดช่วงกว่า 2 ปี ที่ผ่านมานี้ ไม่ต้องพบจิตแพทย์และไม่ต้องรับประทานยารักษาแล้ว ซึ่งเชื่อว่าอาการป่วยที่ดีขึ้นหรืออาจจะเรียกได้ว่าหายป่วยแล้วนี้ โดยปัจจัยสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งน่าจะมาจากการวิ่งออกกำลังกาย ที่ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ และได้พบปะผู้คนต่างๆ ขณะเดียวกันมีคำแนะนำสำหรับผู้ที่ป่วยโรคซึมเศร้าว่า อย่าเพิ่งหมดหวัง โดยสิ่งสำคัญที่สุดอย่างแรกให้ยอมรับว่าตัวเองป่วยแล้วไปพบจิตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและรักษา รวมทั้งการออกกำลังกายสามารถช่วยได้ เหมือนที่ตัวเองเคยผ่านประสบการณ์และพิสูจน์มาแล้ว.
