สุรินทร์- จนท.ตำรวจและป่าไม้บุกตรวจวัด อ.ปราสาท สุรินทร์ เจ้าอาวาสนำลูกศิษย์สะเดาะเคราะห์พิสดารปล่อยงูเห่า จงอาจ กว่า 10 ตัว ทำชาวบ้านผวาทั้งบาง ยันยอมรับทำจริงพร้อมรับผิดชอบ จนท.ชี้ผิด กม.ตาม พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องขออนุญาต แต่ยังไม่แจ้งดำเนินนคดี
วันนี้ (15 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีมีการเผยแพร่คลิปในโซเชียลมีเดีย เหตุการณ์พระครูสมุห์โบรี ธีรมุนี หรือพระอาจารย์โบรี ธีรมุนี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสว่างโสภณ ต.ตานี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ นำคณะลูกศิษย์ประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์เสริมดวงชะตา ด้วยการปล่อยงูเห่า งูจงอาง ตัวขนาดใหญ่ กว่า 10 ตัว ลงสระน้ำภายในวัดช่วงวันที่ 13-14 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้สะเดาะเคราะห์ต้องบริจาคสำหรับปล่อยงูตัวขนาดใหญ่ 8,000 บาท และงูตัวเล็ก 2,000 บาท ซึ่งชาวออนไลน์ให้ความสนใจเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในชุมชนใกล้วัดต่างหวาดผวากลัวอันตรายเกรงงูจะหลุดรอดออกจากวัดมาฉกชาวบ้านและบุตรหลานได้ตลอดเวลา จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดสว่างโสภณ บ้านหนองกระบือ ต.ตานี อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบว่า พระสงฆ์และญาติโยมยังคงปฏิบัติภารกิจอยู่ภายในวัดกันตามปกติ แต่มีญาติโยมมาวัดน้อยกว่าวันก่อนหน้านี้ ขณะที่พระลูกวัดบอกกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ พระครูสมุห์โบรี ธีรมุนี หรือพระอาจารย์โบรี ธีรมุนี รักษาการเจ้าอาวาสวัดสว่างโสภณ ได้เดินทางกลับไปยังบ้านที่ ต.สา อ.บอริโบ จ.กำปงชะนัง ราชอาณาจักรกัมพูชา เพื่อเยี่ยมแม่ที่ป่วย
ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.ประสิทธิ์ เปรมกมล ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.โชคนาสาม ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท ท้องที่เกิดเหตุ และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน ห้วยสำราญ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ป่าไม้อีกหลายนาย ได้เดินทางเข้ากราบนมัสการ พระปิยะณัฐ ขันติโก รองรักษาการเจ้าอาวาสวัดสว่างโสภณ และมัคนายกวัดสว่างโสภณ เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามคลิปวิดีโอที่มีการนำเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย และที่มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง ซึ่งสร้างกระแสความตื่นกลัวให้ประชาชนที่ทราบข่าวโดยทั่วไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวบ้านที่อยู่อาศัยรอบวัดสว่างโสภณเกรงว่างูพิษจะออกมาทำร้ายได้รับอันตราย
เจ้าหน้าที่ได้สอบถาม พระปิยะณัฐ ขันติโก รองรักษาการเจ้าอาวาสวัด ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพระปิยะณัฐยังยืนยันว่าเหตุการณ์เกิดเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำพิธีสะเดาะเคราะห์ตามความเชื่อของญาติโยม โดยได้นำงูมาสะเดาะเคราะห์ แบ่งเป็นงูจงอาง 12 ตัว งูเห่า 3 ตัว ซึ่งงูจงอางที่นำมาปล่อยหมองูได้เรียกจับกลับคืนไปทั้งหมด 12 ตัว เหลือเพียงงูเห่า 3 ตัว ซึ่งถูกรถยนต์เหยียบตาย 1 ตัว ชาวบ้านข้างวัดตีตาย 1 ตัว และเหลือมีชีวิตอยู่อีก 1 ตัว
จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดที่มีการทำพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ปล่อยงูบริเวณริมสระน้ำภายในวัด พร้อมยืนยันอีกว่าทางวัดจะรับผิดชอบ หากงูที่ทางวัดปล่อยหลุดรอดไปทำร้ายชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด ซึ่งจะให้การเยียวยาช่วยเหลือหากได้รับความเดือดร้อน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและป่าไม้ได้ชี้แจงทำความเข้าใจกับ พระปิยะณัฐ ขันติโก รองรักษาการเจ้าอาวาสวัดว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครอง เนื่องจากงูจงอางเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง การจะทำอะไรต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ และต่อไปหากจะมีการกระทำอีกให้ขออนุญาตเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ เสียก่อน ส่วนการแจ้งข้อหาดำเนินคดี นั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ดำเนินการเพราะไม่มีหลักฐานในที่เกิดเหตุ