ศูนย์ข่าวเชียงใหม่- พม.เชียงใหม่ เผยรับตัวเด็กหญิงวัย 14 ที่ถูกพาหนีมาเชียงใหม่ มาดูแลไว้อย่างดี จัดนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาประกบใกล้ชิด แต่ยังเครียดไม่พร้อมให้พ่อแม่มาพบหน้า ขณะเดียวกันนำตัวไปตรวจสุขภาพร่างกายอย่างละเอียดแล้ว รอฟังผลแพทย์วินิจฉัย
ความคืบหน้ากรณีเด็กหญิงอายุ 14 ปี ที่หายตัวออกไปจากบ้านที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.61 กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่และกองปราบปราม ประสานงานร่วมกันจนสามารถติดตามพบตัวที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมควบคุมตัวนายรณชิต บำรุงจิตต์ อายุ 52 ปี ที่เป็นคนพาเด็กหญิงคนดังกล่าวขี่จักรยานยนต์ มาที่จังหวัดเชียงใหม่ และเข้าพักที่ห้องพักรายวันแห่งหนึ่ง ซึ่งเบื้องต้นคืนวานนี้(10 ม.ค.62) เจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือรับตัวเด็กหญิงไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนนายรณชิต ควบคุมตัวนำไปดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ แล้ว
วันนี้(11 ม.ค.62) นางจิราพร เชาวน์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการติเดต่อพูดคุยกับทางพ่อแม่ของเด็กแล้ว ซึ่งอยากจะเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่เพื่อพบตัวลูกสาวทันที อย่างไรก็ตามทางด้านตัวเด็กยังไม่พร้อมที่จะพบกับทางพ่อแม่และครอบครัว รวมทั้งยังมีความเครียดอยู่ ดังนั้นจึงจะยังไม่มีการให้พบกันและให้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ทั้งนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาตลอด 24 ชั่วโมง ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ต่อไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าจะมีความพร้อม ซึ่งทางพ่อแม่เข้าใจเป็นอย่างดี
ขณะที่วันนี้(11 ม.ค.62) ทางเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พาตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวไปตรวจสุขภาพร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติของเด็กแรกรับ และส่วนหนึ่งเพื่อประกอบสำนวนคดีของตำรวจว่ามีการถูกทำร้าย หรือกระทำใดๆ กับร่างกายเด็กหรือไม่ ซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งจึงจะทราบผลการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ สำหรับสภาพจิตใจของเด็กนั้น จากการพูดคุยล่าสุด แม้ว่าดีขึ้นเล็กน้อย อย่างไรก็ตามยังอยู่ในภาวะเครียดและกดดัน ต้องให้เวลาให้การปรับสภาพจิตใจและเปิดใจยอมรับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลอยู่มากขึ้น จากนั้นน่าจะให้ข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ได้มากขึ้น
นอกจากนี้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ บอกด้วยว่า เบื้องต้นจากการพูดคุยกับเด็กคาดว่าสาเหตุที่ทำให้ตัดสินใจออกจากบ้านน่าจะเนื่องมาจากปัญหาและความกดดันในครอบครัว จากการที่พ่อแม่ต้องทำมาหากินจนไม่ค่อยมีเวลาให้ และต้องให้เด็กช่วยดูแลน้องอีก 2 คน ในขณะที่ ตัวเด็กหญิงเองซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่นอยากจะมีเวลาส่วนตัวไปทำกิจกรรมเหมือนเด็กวัยเดียวกันบ้าง
อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถบอกรายละเอียดต่างๆ ได้ ทั้งนี้หากตัวเด็กต้องการอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ต่อไปเรื่อยๆ ตามระเบียบแล้ว เบื้องต้นสามารถอยู่ได้นาน 3 เดือน แต่ขยายระยะเวลาได้ตามเหตุผลและความจำเป็น.
