xs
xsm
sm
md
lg

สนามบินเชียงใหม่แจงกรณีพ่อโพสต์โวยถูกเก็บค่าปฐมพยาบาลลูกชาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ท่าอากาศยานเชียงใหม่แจงกรณีพ่อโพสต์โวยลูกถูกตะปูตำเท้าเลือดสาดถูกเก็บค่าปฐมพยาบาลซ้ำ ระบุนโยบายใหม่เพิ่งเริ่ม 2 ม.ค. 62 ติดต่อผู้เสียหายแสดงความเสียใจแล้ว ยอมรับช่วงเกิดเหตุ จนท.อาจสื่อสารคลาดเคลื่อน




จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Ken Wuttipong” ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวพร้อมด้วยภาพถ่ายกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ช่วงเย็นวันที่ 5 ม.ค. 62 ว่า ตนไปรับภรรยาพร้อมลูกสาวอายุ 5 ขวบ และลูกชายอายุ 3 ขวบ ที่ขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ปรากฏว่าระหว่างที่เดินออกจากอาคารผู้โดยสารข้ามทางม้าลายบริเวณหน้าประตู 2 อาคารผู้โดยสารในประเทศ ลูกชายได้ร้องด้วยความเจ็บปวดและเมื่อตรวจสอบพบว่าถูกตะปูสกรูทิ่มทะลุพื้นรองเท้าจนเท้าเป็นแผล จึงทำการล้างแผลด้วยตนเองเบื้องต้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้แนะนำให้ไปที่ห้องพยาบาลของท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเมื่อเสร็จแล้วจะเดินทางกลับเพื่อไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจรักษาอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าถูกเรียกเก็บค่ารักษาจำนวน 100 บาท ซึ่งแม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่เสียความรู้สึกอย่างมากเพราะเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดกับผู้ใช้บริการในพื้นที่รับผิดชอบของท่าอากาศยาน และเป็นเพียงการช่วยเหลือเบื้องต้นเท่านั้น ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียเข้าไปแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางและแชร์ต่อจำนวนมาก


นายแพทย์ วสรุจน์ รุจนพรม นายแพทย์ชำนาญการ ประจำคลินิกแพทย์ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นตามที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียนั้น ได้มีการติดต่อพูดคุยทำความเข้าใจและแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนเป็นที่เข้าใจกันด้วยดีแล้ว พร้อมชี้แจงว่าการเรียกเก็บอัตราค่าภาระดังกล่าวมีข้อยกเว้น ซึ่งกำหนดเป็นระเบียบไว้ชัดเจน เช่น ผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤต มีอันตรายถึงแก่ชีวิต การยืนยันการเสียชีวิตบนอากาศยาน หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากสิ่งอำนวยความสะดวกของ ทชม. ภายหลังจากบริษัทประกันภัยได้พิสูจน์ทราบแล้วว่าเกิดจากสิ่งอำนวยความสะดวกจริง โดยกรณีนี้ให้เก็บใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลไว้ให้กับทางท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อทำการเบิกจ่ายกับบริษัทประกันภัยต่อไป ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้นนั้นอาจจะเนื่องมาจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนเพราะเพิ่งจะเริ่มมีการเก็บเงินเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 62 ตามนโยบายยกระดับการบริการทางการแพทย์ และประกอบกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในเวลานั้นเป็นพยาบาลเวรจากภายนอก จึงอาจจะไม่ทันได้อธิบาย



ด้านเรืออากาศโท ธนันท์รัฐ ประเสริฐศรี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) ยืนยันว่า ทางสนามบินเชียงใหม่ให้ความสำคัญในการดูแลผู้โดยสารเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งในกรณีที่เกิดเหตุใดๆ ขึ้นกับผู้โดยสารและผู้ใช้บริการโดยเป็นผลจากข้อบกพร่องของท่าอากาศยานแล้ว พร้อมที่จะรับผิดชอบดูแลอย่างเต็มที่ รวมทั้งกรณีที่เกิดขึ้นด้วย พร้อมกับชี้แจงเกี่ยวกับการให้บริการทางด้านการแพทย์ของ ทชม.ว่า เดิมงานบริการทางการแพทย์เป็นเพียงห้องปฐมพยาบาลเบื้องต้น (First Aids) ที่ให้บริการดูแลปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ โดยจัดจ้างพยาบาลภายนอกมาประจำในช่วงเวลาที่สนามบินเปิดให้บริการ


ต่อมาในปี 2559 เพื่อยกระดับการบริการทางการแพทย์ให้ได้มาตรฐานสนามบินนานาชาติ ได้บรรจุอัตรากำลังบุคลากรด้านการแพทย์ ทั้งแพทย์ และพยาบาล เพื่อส่งไปปฏิบัติงาน ณ ท่าอากาศยานทุกแห่งภายใต้สังกัดของบริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. โดยในปี 2561 ทชม.ได้จัดสรรพื้นที่เป็นคลินิกเเพทย์ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ซึ่งเป็นการยกระดับจากห้องปฐมพยาบาลมาเป็นคลินิกแพทย์ฯ ที่มีมาตรฐานเช่นเดียวกับท่าอากาศยานชั้นนำอื่นๆ ทั่วโลก หรือเทียบเท่าสถานพยาบาลขนาดเล็กของเอกชนทั่วไป โดยมีบุคลากรทางการแพทย์ อุปกรณ์และเวชภัณฑ์ รวมทั้งรถพยาบาลที่สามารถดูแลเบื้องต้นได้อย่างทันท่วงทีก่อนส่งต่อยังโรงพยาบาลต่อไป ซึ่งจำเป็นต้องมีการเรียกเก็บอัตราค่าภาระการใช้บริการทางการแพทย์ตามอัตราที่ ทอท.กำหนด


ทั้งนี้ ได้เริ่มเก็บตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2562 เป็นต้นมา และมีการแจ้งบริษัทสายการบิน ผู้ประกอบการ หน่วยงานต่างๆ ที่ปฏิบัติงาน ณ ทชม. รวมทั้งติดประกาศให้ผู้โดยสารรับทราบอย่างชัดเจน ส่วนกรณีอุบัติเหตุที่เกิดแก่ผู้โดยสาร รวมถึงญาติที่มารับและส่งผู้โดยสาร หากเกิดขึ้นในเขตพื้นที่ของท่าอากาศยานจะมีบริษัทประกันภัยช่วยดูแลในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการต้องสำรองจ่ายไปก่อนและนำใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดมาแจ้งเพื่อเข้าสู่กระบวนการ เหตุผลหนึ่งเป็นเพราะจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น