ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - เปิดใจ หนุ่มโพสต์โวยสนามบินเชียงใหม่ ลูกชายวัย 3 ขวบลงเครื่องบินถูกตะปูเกลียวทิ่มทะลุรองเท้าเลือดสาด ส่งเข้าห้องปฐมพยาบาลเสร็จแล้วถูกเรียกเก็บเงินค่ารักษาซ้ำ
วานนี้ (7 ม.ค. 62) ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Ken Wuttipong” ได้โพสต์บอกเล่าเรื่องราวพร้อมด้วยภาพถ่ายกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ช่วงเย็นวันที่ 5 ม.ค. 62 ว่า ตนไปรับภรรยาพร้อมลูกสาวอายุ 5 ขวบ และลูกชายอายุ 3 ขวบ ที่ขึ้นเครื่องบินเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ ปรากฏว่าระหว่างที่เดินออกจากอาคารผู้โดยสารข้ามทางม้าลายบริเวณหน้าประตู 2 อาคารผู้โดยสารในประเทศ ลูกชายได้ร้องด้วยความเจ็บปวดและเมื่อตรวจสอบพบว่าถูกตะปูสกรูทิ่มทะลุพื้นรองเท้าจนเท้าเป็นแผล จึงทำการล้างแผลด้วยตัวเองเบื้องต้น
จากนั้นเจ้าหน้าที่ของท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้แนะนำให้ไปที่ห้องพยาบาลของท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเมื่อเสร็จแล้วจะเดินทางกลับเพื่อไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจรักษาอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่ปรากฏว่าถูกเรียกเก็บค่ารักษาจำนวน 100 บาท ซึ่งแม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มาก แต่เสียความรู้สึกอย่างมากเพราะเห็นว่าเป็นอุบัติเหตุที่เกิดแก่ผู้ใช้บริการในพื้นที่รับผิดชอบของท่าอากาศยาน และเป็นเพียงการช่วยเหลือเบื้องต้นเท่านั้น
ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียเข้าไปแสดงความเห็นวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางและแชร์ต่อจำนวนมาก
จากการตรวจสอบทราบว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Ken Wuttipong” คือ นายวุฒิพงษ์ ใจข้อ อายุ 43 ปี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเย็นวันที่ 5 ม.ค. 62 โดยหลังจากที่ลูกชายประสบเหตุแล้วตนและภรรยาได้นำตัวลูกชายไปที่รถยนต์ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถแล้วใช้น้ำล้างทำความสะอาดแผล และเตรียมนำตัวส่งโรงพยาบาล จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ทราบเรื่องได้เข้ามาดูและแนะนำให้ไปที่ห้องพยาบาลของสนามบิน จึงได้นำลูกชายไปทำแผลตามคำแนะนำ
แต่ปรากฏว่าเมื่อเสร็จแล้วมีการพิมพ์ใบเสร็จและเรียกเก็บเงินค่ารักษาจำนวน 100 บาท ซึ่งในเวลานั้นยอมรับว่ารู้สึกโกรธอย่างมาก เพราะแม้จะเป็นจำนวนเงินเพียงเล็กน้อย แต่เห็นว่าเป็นเพียงการช่วยเหลือเบื้องต้นเล็กน้อยและควรจะเป็นความรับผิดชอบของท่าอากาศยานเชียงใหม่ด้วยที่ปล่อยให้มีตะปูตกอยู่และเกิดเหตุกับลูกชายของตน โดยตนได้จ่ายเงินตามที่ถูกเรียกเก็บ จากนั้นนำตัวลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ได้ทำการตรวจรักษาด้วยการเปิดปากแผลให้กว้างขึ้นเนื่องจากแผลที่โดนตะปูจะปิดเร็วแต่จะมีโพรงอยู่ข้างในทำให้เกิดหนองได้ ส่วนบาดทะยักไม่ต้องฉีดเพราะเคยได้รับวัคซีนไปแล้ว ขณะเดียวกันได้โพสต์เรื่องราวในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อหวังให้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้คนและอยากทราบข้อเท็จจริง
นายวุฒิพงษ์บอกว่า ภายหลังจากที่มีการโพสต์เรื่องราวไปแล้วได้รับการติดต่อจากทางนายแพทย์ประจำคลินิกแพทย์ท่าอากาศยานเชียงใหม่แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์และกรณีที่เกิดขึ้น โดยมีการชี้แจงอธิบายทำความเข้าใจว่า การเรียกเก็บเงินดังกล่าวเพิ่งจะเริ่มเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 62 ตามนโยบายยกระดับการบริการทางการแพทย์ และในช่วงเกิดเหตุอาจจะเป็นช่วงที่ชุลมุนเล็กน้อย ประกอบกับในช่วงเกิดเหตุผู้ที่ทำการรักษาเป็นพยาบาลเวรจากภายนอก จึงอาจจะไม่ทันได้มีการแจ้งข้อมูลและอธิบายรายละเอียดให้ทราบ
ในส่วนของกรณีอุบัติเหตุครั้งนี้นั้น ทางท่าอากาศยานเชียงใหม่มีการทำประกันภัยที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ให้แก่ผู้โดยสาร รวมทั้งญาติที่มารับส่งผู้โดยสาร โดยให้สำรองจ่ายไปก่อนและนำใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลมาแจ้งเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการเบิกจ่ายต่อไป ทั้งนี้ยอมรับว่าหลังจากที่ได้รับฟังการชี้แจงอธิบายแล้วรู้สึกพอใจและเกิดความเข้าใจที่ดี รวมทั้งไม่ติดใจเอาความใดๆ อย่างไรก็ตาม แนะนำว่าควรกำชับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้มีการอธิบายทำความเข้าใจกับผู้ใช้บริการตั้งแต่แรกจะดีกว่าเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก