จันทบุรี - อิทธิพล “ปาบึก” ทำบ้านเรือน และรีสอร์ตริมทะเลใน 3 อำเภอ จ.จันทบุรี เสียหายหนัก หลังเกิดพายุฝนซ้ำ คลื่นสูง 2-3 เมตรพัดเข้าชายฝั่งช่วงเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา ทำชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (5 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลจากพายุโซนร้อน “ปาบึก” ได้ส่งผลในพื้นที่ จ.จันทบุรี เกิดพายุฝนและคลื่นลมแรง โดยบ้านเรือนของชาวบ้าน และรีสอร์ตริมทะเลใน 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.แหลมสิงห์ ท่าใหม่ และ อ.นายายอาม ได้ถูกพายุฝนและคลื่นลมที่พัดเข้าฝั่งซัดบ้านเรือนและรีสอร์ตจนได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง นอกจากนั้น บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่ติดชายทะเลยังถูกน้ำทะเลหนุนเข้าท่วม และแรงลมยังพัดกระเบื้องหลังคาปลิวหายไปหลายหลังคาเรือน
ขณะที่เรือประมงของชาวบ้านานที่จอดหลบคลื่นลมได้ถูกพายุซัดจมลงทะเลหลายลำ เบื้องต้น ชาวบ้านได้พากันขนย้ายสิ่งของไว้ในที่สูง และอพยพออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยแล้ว
โดยการเกิดพายุคลื่นลมแรงในครั้งนี้ ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า ถือเป็นความรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี เพราะนอกจากคลื่นที่ซัดเข้าฝั่งอย่างต่อเนื่องจะสูงประมาณ 2-3 เมตรแล้ว ยังเกิดภาวะน้ำโต หรือนำทะเลหนุน ซึ่งขณะนี้ผู้ชุมชนได้รายงานความเสียหายไปยัง นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหน่วยงานราชการในแต่ละอำเภอยังได้เตรียมลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบแล้วเช่นกัน
นางจำปา เนินทราย ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ กล่าวว่า เหตุพายุฝนและคลื่นลมแรงได้เกิดขึ้นเมื่อประมาณเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา โดยพบว่า คลื่นลมแรงได้ซัดเรือประมงของตนเองที่จอดหลบคลื่นจมทะเล รวมทั้งมีเรือประมงของเพื่อนบ้านที่ถูกคลื่นซัดจมทะเลไปเช่นกัน และในช่วงเช้าวันนี้ ยังคงมีคลื่นสูงและลมแรงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากชาวบ้านไม่คิดว่าพายุ “ปาบึก” จะซัดเข้ามาด้าน จ.จันทบุรี ด้วย จึงทำให้ไม่มีการเตรียมตัวรับมือ
รองผู้ว่าฯ นำหน่วยงานเกี่ยวข้องลงตรวจสอบพื้นที่
และเมื่อเวลา 09.30 น.ที่ผ่านมา นายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย นายอวิรุทธ์ วรกิตติ์ไพศาล หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ได้นำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินทางลงพื้นที่ 3 อำเภอเพื่อตรวจสอบความเสียหายแล้ว โดยพบว่าอิทธิพลพายุโซนร้อน “ปาปึก” ได้ทำให้บ้านเรือนชาวบ้านถูกพายุพัดและน้ำทะเลซัดเข้าท่วม กว่า 30 หลังคาเรือน เรือประมงถูกคลื่นซัดจมทะเลกว่า 10 ลำ และรีสอร์ท์ที่ติดชายทะเลถูกพายุพัดเสียหาย 5 หลัง
พร้อมสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและผู้นำชุมชน เร่งให้การช่วยเหลือในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และอพยพชาวบ้าน ผู้สูงอายุ เด็ก และผู้ป่วยออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว และประกาศเตือนภัยไปยังท้องถิ่นแล้วเนื่องจากคลื่นลมในทะเลยังสูงประมาณ 2-3 เมตร และยังมีน้ำทะเลหนุนต่อเนื่อง