บุรีรัมย์ - ตำรวจยกเลิกการนำตัว “ร.ท.” จี้แบงก์กรุงไทยสาขาศูนย์ราชการฯ บุรีรัมย์เชิดเงินล้านไปทำแผนฯ อ้างเป็นความประสงค์ของผู้ต้องหา มั่นใจพยานหลักฐานและคำรับสารภาพ ส่วนปืนก่อเหตุเป็น “บีบีกัน” เตรียมส่งฝากขังศาลทหาร
วันนี้ (26 ธ.ค.) ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ได้ยกเลิกนำตัว ร.ท.จารุภูมิ ปานาโต ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุบุกเดี่ยวเข้าไปใช้อาวุธปืนพกสั้นจี้ชิงเงินพนักงานธนาคารกรุงไทย สาขาย่อยศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กวาดเงินสดไป 1 ล้านบาท ช่วงบ่ายวันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุ เนื่องจากเป็นความประสงค์ของผู้ต้องหา
อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มี รวมถึงคำให้การของผู้ต้องหาเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และให้ความร่วมมือพาเจ้าหน้าที่ไปชี้จุดนำเงินที่จี้ชิงไปซุกซ่อนไว้ รวมถึงชี้จุดที่ซุกซ่อนสิ่งเทียมอาวุธปืน หรือปืนบีบีกัน ที่ใช้ในวันก่อเหตุด้วย
พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ ศรีเสริม ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.เมืองบุรีรัมย์ ระบุว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับว่าก่อนจะลงมือก่อเหตุได้เดินผ่านไปดูลาดเลา 2 รอบ เมื่อสบโอกาสไม่มีลูกค้าเข้าไปใช้บริการในธนาคารจึงตัดสินใจก่อเหตุเข้าไปใช้ปืนจี้ชิงเงิน ส่วนที่ผู้ต้องหารู้ความเคลื่อนไหวทางธนาคาร เนื่องจากผู้ต้องหาทำงานที่ศูนย์ราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และเคยไปใช้บริการที่ธนาคารสาขาดังกล่าวบ่อยครั้ง
ส่วนเหตุจูงใจในการก่อเหตุอ้างว่ามีหนี้สินส่วนตัวไม่มีทางออกจึงตัดสินใจก่อเหตุเพื่อหวังจะนำเงินไปใช้หนี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา “ชิงทรัพย์โดยทำด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร”
ในวันพรุ่งนี้ ( 27 ธ.ค.) จะส่งตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลทหาร อย่างไรก็ตาม หากสืบสวนขยายผลพบว่ามีบุคคลอื่นร่วมก่อเหตุด้วย และหากเป็นพลเรือนจะถูกส่งตัวไปดำเนินคดีที่ศาลปกติ