บุรีรัมย์ - ตร.กระสัง ตรวจจุดเกิดเหตุเร่งล่าตัวไอ้โม่งหื่นพยายามข่มขืนหญิงวัย 47 ปี ขุดหากบเขียดในทุ่งนา เหยื่อฮึดขย้ำอัณฑะคนร้ายก่อนถูกคนร้ายใช้มีดแทงมือ-ด้ามเสียมฟาดสาหัส ขณะคนขับแบ็กโฮเผยนาทีเหยื่อวิ่งร่างโชกเลือดมาขอช่วยเหลือ
วันนี้ (24 ธ.ค.) ความคืบหน้าคดีเหตุคนร้ายอายุประมาณ 25-30 ปี สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า พยายามใช้กำลังบังคับข่มขืนหญิงอายุ 47 ปี ชาวบ้านบ้านสีคิ้ว ต.สูงเนิน อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ขณะออกไปขุดหากบเขียดบริเวณทุ่งนาห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร แต่เหยื่อต่อสู้ขัดขืนทั้งใช้มือบีบขย้ำอัณฑะของคนร้าย จึงถูกทำร้ายร่างกายทั้งใช้มีดแทง และด้ามเสียมตีจนสลบได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดช่วงบ่ายของวันที่ 22 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ อาการพ้นขีดอันตรายแล้วสามารถพูดคุยได้ แต่ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
ล่าสุด พ.ต.อ.สุชาติ ละลี ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ธนัช นครไธสง พนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมเก็บคราบเลือดเพื่อส่งตรวจหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ และหาข้อมูลในเชิงลึกเพื่อเร่งติดตามล่าตัวคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากการสอบถามพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ได้ทำการสอบปากคำผู้เสียหายไปเบื้องต้นแล้ว พร้อมทั้งได้สอบพยานไปแล้วหลากปาก ทั้งคนขับรถแบ็กโฮที่ผู้เสียหายวิ่งไปขอความช่วยเหลือ รวมถึงชาวบ้านที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เพื่อเป็นข้อมูลเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย ทั้งนี้จะได้ส่งคราบเลือดที่ติดกับเสื้อผ้าผู้เสียหาย ด้ามเสียม และกองเลือดที่อยู่บริเวณพื้นดินจุดเกิดเหตุด้วย เพื่อเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
เบื้องต้นสันนิษฐานไว้ 2 ประเด็น คือ พยายามข่มขืน และประสงค์ต่อทรัพย์ และคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนนอกพื้นที่ ขณะนี้ตำรวจชุดสืบกำลังเร่งหาเบาะแสเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนกระเป๋าที่พบในกระท่อมห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตรนั้น จากการตรวจสอบแล้วไม่ใช่ของคนร้าย เป็นของชาวบ้านที่มาเลี้ยงวัวควายในละแวกดังกล่าว พร้อมยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายสุริชัย เการัมย์ อายุ 38 ปี ชาวบ้านที่มาดักหนูใกล้จุดเกิดเหตุให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นชายต้องสงสัยมีลักษณะรูปร่างผอม สูงประมาณ 160 ซม. ใส่เสื้อสีกรมท่า กางเกงขาสามส่วน และสวมหมวกไหมพรม เดินอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นคนมาเลี้ยงวัวควาย หรือหากบเขียดตามทุ่งนาเป็นปกติ กระทั่งมาทราบข่าวภายหลังว่าเกิดเหตุคนร้ายพยามยามข่มขืนและทำร้ายร่างกายหญิงในหมู่บ้านก็รู้สึกตกใจ และไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุร้ายดังกล่าวขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะดังกล่าวเลย ขณะนี้ชายคนดังกล่าวหายตัวไปแล้ว
ด้านนายสุริยา กิวรัมย์ อายุ 22 ปี คนขับรถแบ็กโฮ ได้เล่าถึงนาทีที่ผู้เสียหายวิ่งเข้ามาขอความช่วยเหลือว่า ขณะตนและเพื่อนคนงาน 3 คนกำลังขับรถแบ็กโฮขุดตักดินอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เห็นผู้เสียหายโซซัดโซเซเข้ามาขอความช่วยเหลือในสภาพที่มีคราบเลือดติดตามศีรษะใบหน้า มือ และเสื้อผ้า ทั้งผมเผ้าก็ยุ่งเหยิง ก็ตกใจตอนแรกคิดว่าเป็นคนสติไม่ดี สักพักหญิงคนดังกล่าวมาเคาะประตูขอให้ช่วยเหลือ พร้อมเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าถูกคนร้ายพยายามจะข่มขืนแต่ผู้เสียหายได้ต่อสู้ขัดขืนจึงถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
จากนั้นตนจึงติดต่อญาติเพื่อนำส่งโรงพยาบาล หลังจากที่ผู้เสียหายเข้ามาขอความช่วยเหลือและเล่าเหตุการณ์ให้ฟังตนและเพื่อนก็ขึ้นไปบนรถแบ็กโฮเพื่อมองหาชายคนร้าย แต่ไม่พบใครแล้ว
