สระบุรี - เมียประธาน อบต. โอด สามีไม่ได้รู้เรื่องด้วย แค่จะไปไกล่เกลี่ยให้ ยืนยันไม่ได้เป็นญาติกับกลุ่มผู้ต้องหา แค่บ้านอยู่ติดกันเลยถูกขอร้องให้ไปช่วยดูแล เผยถูกกดดันทั้งโลกโซเชียล และชีวิตจริง ครอบครัวคนรอบข้างโดนหมด
จากเหตุการณ์เด็กชายวัยรุ่น 5 คน ในจังหวัดสระบุรี ฉุดเด็กหญิงวัย 12 ปี เข้าไปรุมข่มขืนในร้านขายของ “ทุกอย่าง 10 บาท” ล่าสุด เป็น 9 คน แล้วที่สมรู้ร่วมคิดกระทำดังกล่าว และต่อมา นายสังวาลย์ สิทธิปัญญา ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ผึ้งรวง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ได้เข้าไปเจรจาไกล่เกลี่ยโดยใช้คำพูดไม่เหมาะสม พร้อมต่อรองจ่ายเงินให้ผู้เสียหายเพื่อจบเรื่อง แต่พ่อของเด็กหญิงไม่ยินยอม และเดินหน้าเอาความถึงที่สุดนั้น
ต่อมา ได้มีกระแสกดดันให้นายสังวาลย์ ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภา อบต.และประธาน สภา อบต.ผึ้งรวง เนื่องจากเห็นว่านายสังวาลย์ ไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในตำแหน่งต่อไป โดยยื่นคำขาดให้นายสังวาลย์ ยื่นหนังสือลาออกภายใน เวลา 12.00 น.วันที่ 19 ธ.ค. ซึ่งหากยังไม่ยอมลาออกจะทำหนังสือถึงนายอำเภอ เพื่อขออนุมัติเปิดการประชุมสภา อบต.สมัยวิสามัญ เพื่อลงมติถอดถอน ในที่สุด นายสังวาลย์ ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการ ต่อ นายกกชัย ฉายรัศมี นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ (19 ธ.ค.) โดยไม่มีการชี้แจงถึงเหตุผลของการลาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้แต่อย่างใด
ล่าสุด นางชไมพร สิทธิปัญญา ภรรยาของ นายสังวาลย์ เผยว่า ขณะนี้ครอบครัวระส่ำระสายมาก ถูกแรงกดดันทั้งจากโลกโซเชียล และโลกแห่งความจริงอย่างรุนแรง โดยไม่ได้กระทบแค่เพียงตัวของสามีเท่านั้น แต่ทุกๆ คน ที่เกี่ยวข้องทั้งครอบครัว เครือญาติโดนเหมือนกันหมด ตนเองขอยืนยันว่าความจริงแล้วสามีไม่ได้เป็นญาติกับกลุ่มผู้ต้องหาตามข่าวลือ แต่มีบ้านอยู่ติดกับบ้านของ 1 ในผู้ต้องหา พอเกิดเหตุบิดาของผู้ต้องหามาเรียกให้ไปดูจุดเกิดเหตุ ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้ความจริงอะไรเลย แต่ด้วยความหวังดีสามีเลยไปดู หลังจากนั้น ก็ปรากฏตามคลิป สามีท้อแท้มาก บ่นไม่น่าหาเหาใส่หัวเลย เพียงแค่หวังดีไปช่วยเป็นคนกลางตามคำขอเท่านั้น