ชัยนาท - ตำรวจสรรคบุรี เตรียมออกหมายเรียกครูโหดเข้าให้ปากคำ หลังบุกไปทำร้ายใช้มีดฟันหัวพ่อ-ลูก เจ้าของร้านวัสดุการเกษตร ได้รับบาดเจ็บ
จากกรณีข้าราชการครู อายุ 50 ปี ในตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท ที่ก่อเหตุใช้มีดทำร้ายชายสูงวัย อายุ 73 ปี และลูกสาว อายุ 43 ปี ได้รับบาดเจ็บ ภายในร้านจำหน่ายวัสดุทางการเกษตร ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลห้วยกรด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา
ล่าสุด บ่ายวันนี้ (18 ธ.ค.) หญิงวัย 43 ปี ผู้บาดเจ็บได้เดินทางไปที่ สภ.สรรคบุรีเพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อพนักงานสอบสวน เพื่อให้ดำเนินคดีเอาผิดต่อข้าราชการครูดังกล่าวจนถึงที่สุด
โดยหญิงผู้บาดเจ็บให้การว่า ตนไปกู้เงินกับธนาคารออมสิน จำนวน 80,000 บาท โดยให้ครูเป็นผู้ค้ำประกัน ซึ่งต่อมา ตนได้มีการทำสัญญากับทางธนาคารว่าจะผ่อนชำระเงินกู้เดือนละ 2,000 บาท แต่ในวันเกิดเหตุ ครูได้มาหาที่บ้าน มาเสนอให้ตนทำสัญญาเงินกู้กับครูเป็นเงิน 200,000 บาท แล้วจะส่งคนมาเก็บเงินเป็นรายวันซึ่งตนก็แปลกใจว่าเหตุใดตนเองจะต้องทำสัญญาเงินกู้กับครูอีก
ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นหนี้ครู จึงไม่ยอมทำสัญญาด้วย และได้พูดไปว่า “นี่หนูคนนะ ถ้าเป็นควาย คงจะทำให้พี่” และเมื่อจะเดินเข้าไปในห้อง ครูก็เดินตามไป แล้วก็คว้ามีดมาฟันหัวทันที และทำร้ายพ่อของตนเองด้วย โดยที่ไม่ได้มีการโต้เถียงใดๆ กัน หญิงผู้บาดเจ็บยังเปิดเผยอาการบาดเจ็บของตนว่า ต้องเย็บแผลที่ศีรษะ นิ้วมือซ้าย และขาขวา รวม 23 เข็ม มีอาการเจ็บระบมไปทั้งตัว
ส่วนอาการบาดเจ็บของบิดา ต้องเย็บแผลที่ถูกมีดฟัน รวม 13 เข็ม และยังต้องนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากกระดูกซี่โครงหัก 3 ซี่ จากการถูกเตะจึงจะดำเนินคดีต่อครูให้ถึงที่สุด และจะไม่ยอมเจรจาด้วย แม้ครูคู่กรณีจะพยายามส่งผู้ใหญ่เข้ามาเจรจาขอให้ยอมความ
ด้าน ร.ต.อ.นาวิน บุญคุ้มครอง พนักงานสอบสวน สภ.สรรคบุรี เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้จะออกหมายเรียกครูคนดังกล่าวมาให้ปากคำที่ไปทำร้ายร่างกายคู่กรณี ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนต้นสังกัดของครูดังกล่าว เปิดเผยว่า ครูได้โทรศัพท์มาลากิจ เป็นเวลา 5 วัน เพื่อขอไปเคลียร์กับคู่กรณี และเคลียร์เรื่องคดีความให้เสร็จก่อนจึงจะกลับมาสอนหนังสือ
ส่วนเรื่องที่ต้นสังกัดจะทำการสอบสวนทางวินัยหรือไม่ ต้องรอให้ทางสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษาชัยนาท เป็นผู้สั่งการ แต่เบื้องต้น ได้รายงานให้ทางเขตพื้นที่ทราบเรื่องแล้ว ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ตนรู้สึกตกใจมากไม่คิดว่าครูจะก่อเหตุเช่นนี้ได้ เพราะปกติเป็นครูที่มีน้ำใจ คอยช่วยเหลือ ดูแลเด็กนักเรียน และกิจการงานของโรงเรียนเป็นอย่างดี แต่ก็ยอมรับว่าครูเป็นคนอารมณ์ร้อน