xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มใหญ่อดีตเจ้าของผับดังเชียงใหม่ผันตัวเป็นเกษตรกรผักออร์แกนิกหวังยึดอาชีพสุดท้ายของชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - หนุ่มใหญ่อดีตนักธุรกิจเจ้าของผับดังเชียงใหม่ ทิ้งชีวิตแสงสี ผันตัวเป็นเกษตรกรบุกเบิก “มังกี้ ฟาร์ม” บนที่ดินแม่ ปลูกผักอินทรีย์เพื่อสุขภาพส่งขายทั่วประเทศ เผยลงมือทำลองผิดลองถูกอยู่นานจนสำเร็จ



ผืนดินหลายสิบไร่ท่ามกลางหุบเขาที่โอบล้อมในตำบลเชิงดอย อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ และอยู่ติดกับศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ปัจจุบันเป็นฟาร์มเพาะปลูกพืชผักอินทรีย์ปลอดสารพิษหลายสิบชนิดที่ชื่อ “มังกี้ ฟาร์ม” จากการพลิกฟื้นที่ดินทำกินดั้งเดิมของแม่โดยความมุ่งมั่นตั้งใจของ นายนิเวศน์ พิรารักษ์ อายุ 50 ปี อดีตนักธุรกิจเจ้าของผับชื่อดังย่านนิมมานเหมินท์ กลางเมืองเชียงใหม่ ที่ผันตัวเองจากชีวิตอยู่ท่ามกลางแสงสีในเมืองมาเป็นเกษตรกรที่อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติและหวังจะยึดเป็นอาชีพสุดท้ายในชีวิต ซึ่งด้วยการมุ่งมั่นทำอย่างจริงจัง ทำให้ประสบความสำเร็จด้วยดีจนได้รับรางวัลเกษตรกรดีเด่นภาคเหนือตอนบน สาขาเกษตรอินทรีย์ ประจำปี 2561



นายนิเวศน์ เปิดเผยว่า การทำฟาร์มเพาะปลูกพืชผักอินทรีย์ปลอดสารพิษแห่งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 9 ปีที่แล้ว ด้วยการวางแผนที่จะเลิกทำธุรกิจผับที่เคยทำอยู่แล้วและมีรายได้ดี เปลี่ยนไปเป็นเกษตรกรปลูกผักอินทรีย์เพื่อสุขภาพชดเชยอาชีพเดิมที่ทำมา โดยที่ตั้งใจว่าจะยึดเป็นอาชีพสุดท้ายของชีวิต จึงทำการศึกษาเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์อย่างจริงจัง พร้อมลงมือทำควบคู่กันไป

ในช่วงที่เริ่มแรกนั้นต้องลองผิดลองถูกมาตลอด ต้องประสบความล้มเหลวอยู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยท้อถอยและพยายามเรียนรู้เพิ่มเติม จนกระทั่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้นตามลำดับ และปี 2555 เริ่มต้นทดลองปลูกผักโดยไม่มีการใช้สารเคมีในทุกขั้นตอนบนที่ดินทำกินของแม่ประมาณ 70 ไร่ ที่พัฒนาจนกลายเป็น “มังกี้ ฟาร์ม” ในปัจจุบัน



สำหรับพืชผักที่ปลูกใน “มั้งกี้ ฟาร์ม” นั้น นายนิเวศน์ บอกว่า การเพาะปลูกพืชผักทุกชนิดและทุกขั้นตอนจะปราศจากการใช้สารเคมี ซึ่งพืชผักที่ปลูก ได้แก่ มะละกอ, ชะอม, คะน้า, มะเขือเทศ, มะเขือพวง, กะหล่ำปลี, กวางตุ้ง, กล้วย, บร็อกโคลี และผักสลัดทุกชนิด

ปัจจุบันผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้จะส่งขายทั้งตลาดในจังหวัดเชียงใหม่และทั่วประเทศ โดยเฉพาะตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ และตลาดนัดอาหารอินทรีย์ปลอดสารพิษ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค ขณะเดียวกัน ยังมีการปรุงเป็นอาหารเพื่อสุขภาพขายที่ร้านอาหารภายในฟาร์มด้วยที่เปิดให้ผู้สนใจเข้าเที่ยวชมและเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกพืชผักอินทรีย์ ระหว่าง 10.00-20.00 น. ทุกวัน


ส่วนข้อแนะนำสำหรับผู้ที่สนใจอยากจะปลูกพืชผักอินทรีย์เป็นอาชีพนั้น นายนิเวศน์ บอกว่า สิ่งสำคัญอย่างแรกต้องมีความตั้งใจจริง และศึกษาหาความรู้ข้อมูลให้ครบถ้วนรอบด้าน รวมทั้งต้องมีการเตรียมสภาพพื้นที่ให้พร้อมล่วงหน้าอย่างน้อย 3-6 เดือนด้วย ก่อนที่จะลงมือทำ ซึ่งปัจจุบันสามารถหาข้อมูลได้หลายช่องทางทั้งจากหน่วยงานต่างๆ และออนไลน์ โดยที่ “มังกี้ ฟาร์ม” พร้อมที่จะถ่ายทอดความรู้และข้อมูลให้กับผู้ที่สนใจด้วย




กำลังโหลดความคิดเห็น