xs
xsm
sm
md
lg

ชาวบ้านผวา! น้ำบ่อขยะ ทม.วารินชำราบ ไหลลงลำน้ำสาธารณะ กระทบสุขภาพ-สวล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อุบลราชธานี - ชาวบ้านบ่อขยะหวาดวิตก น้ำเสียจากบ่อบำบัดน้ำเสียไปลงลำน้ำสาธารณะ กระทบสุขภาพ-สวล. ด้านเทศบาลเมืองวารินชำราบ ยันปัญหาเคยเกิดหลายปีก่อน แต่ยอมรับกลิ่นเหม็นและฝุ่นควันจากการเผาขยะยังมีอยู่ พยายามแก้

จากกรณีชาวบ้านดอนผอุง หมู่ 5 ต.คูเมือง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ออกมาเปิดเผยกรณีมีน้ำเสียจากบ่อบำบัดขยะมูลฝอยพื้นที่กว่า 282 ไร่ ของโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของเทศบาลเมืองวารินชำราบ ไหลลงลำน้ำสาธารณะที่อยู่ใกล้เคียง จนชาวบ้านในพื้นที่ไม่กล้าจับปลาจากลำน้ำแห่งนี้ มารับประทาน เนื่องจากเกรงจะมีสารพิษปนเปื้อนตกค้าง

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เข้าสอบถามข้อเท็จจริงกับ นายประสิทธิ์ นิลเกษ อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้านดอนผอุง ซึ่งเล่าว่า กรณีเรื่องน้ำเสียจากบ่อบำบัดของโรงงานขยะมูลฝอยแห่งนี้ ไหลลงสู่ลำน้ำสาธารณะเคยเกิดขึ้นจริงเมื่อหลายปีก่อน แต่ปัจจุบันไม่ปรากฏ ส่วนความกังวลเรื่องจะมีสารพิษตกค้างในลำน้ำแห่งนี้ ส่วนตัวคิดอาจยังมีอยู่

เพราะน้ำที่ผ่านการบำบัดจากโรงงานขยะของเทศบาลเมืองวารินชำราบ และปล่อยลงสู่ลำน้ำมี 2 ส่วน คือ ในฤดูฝน บางปีที่มีฝนตกหนัก น้ำจะล้นบ่อที่เก็บกักแล้วไหลลงสู่ลำน้ำ อีกส่วนมาจากชาวบ้านที่ทำเกษตรกรรมรอบโรงขยะ ขอน้ำจากบ่อบำบัดที่มีสารจุลินทรีย์จากขยะจำนวนมาก มาใช้รดผลผลิตและใช้ปรับปรุงดิน เพื่อให้การเพาะปลูกพืชผลได้ผลดีกว่าเดิม สำหรับเรื่องปัญหาน้ำเสียงนั้น ขณะนี้ยังไม่มีปัญหา

แต่ที่มีปัญหาตลอดทั้งปี คือ เรื่องของกลิ่นเหม็นและฝุ่นละอองจากเตาเผาขยะ ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน กระทบกับสุขภาพของชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบบ่อขยะ โดยเฉพาะในฤดูหนาวที่มีลมพัดแรง กลิ่นควันไฟจะลอยไปไกล 1-2 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่โดยรอบบ่อขยะบางครั้งมีอาการวิงเวียนปวดศรีษะ รวมทั้งมีแมลงวันบินรบกวนในโรงเรียนประถมศึกษาประจำหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใกล้กับบ่อขยะ

ซึ่งเคยร้องเรียนไปยังเทศบาลและอำเภอ ก็ได้รับการแก้ปัญหา โดยเทศบาลได้มาติดมุ้งลวดป้องกันแมลงวันในโรงอาหาร และติดเครื่องปรับอากาศลดกลิ่นเหม็นจากการเผาไหม้ของขยะให้กับทางโรงเรียน

นายประสิทธิ์ นิลเกษ ผู้ใหญ่บ้านดอนผอุง

นายประสิทธิ์ นิลเกษ ผู้ใหญ่บ้านดอนผอุง กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องการในเวลานี้ คือ ให้ลดปัญหาของกลิ่นและฝุ่นละอองจากเตาเผาขยะ เพราะชาวบ้านเกรงจะเจ็บป่วยจากมลภาวะเป็นพิษ รวมทั้งเมื่อมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำจากบ่อบำบัดน้ำเสียของเทศบาล ต้องแจ้งความเปลี่ยนแปลงของค่าคุณภาพของน้ำในแต่ละช่วงให้ชาวบ้านรับทราบด้วยทุกครั้ง

ชาวบ้านจะได้รับรู้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จะได้ไม่มีข้อสงสัย เพราะชาวบ้านต้องทนกับสภาพที่อยู่กับบ่อขยะแห่งนี้มานานถึง 20 ปีแล้ว
นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศมนตรีเมืองวารินชำราบ
ด้าน นายจีระชัย ไกรกังวาร นายกเทศมนตรีเมืองวารินชำราบ กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า สำหรับเรื่องน้ำเสียจากบ่อบำบัดไหลลงลำน้ำสาธารณะ เคยเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เพราะปีนั้นเกิดฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างหนักต่อเนื่องตลอดทั้งวัน แต่หลังจากนั้นก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีก

สำหรับการตรวจวัดคุณภาพน้ำเทศบาลเมืองวารินชำราบ ร่วมกับคณะวิศวกรรมมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม มีการควบคุมคุณภาพน้ำที่ผ่านการบำบัดให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานของโรงงาน คือไม่เกิน 60 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อลิตร

โดยที่ผ่านมา น้ำจะมีค่าเฉลี่ยที่ 30-40 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อลิตร มีเพียงครั้งเดียวเมื่อต้นปี 2561 ซึ่งพบมีค่าสูงถึง 80 มิลิกรัมเปอร์เซ็นต์ต่อลิตร จึงได้ทำการบำบัดเพิ่มเติม และปัจจุบันอยู่ในเกณฑ์ปกติ

สำหรับน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้ว จะไม่มีการปล่อยลงสู่ลำน้ำสาธารณะ เว้นแต่เกิดอุบัติเหตุเหมือนเมื่อสิบปีก่อน เพราะทุกปีจะมีเกษตรกรที่เสร็จจากการทำนา จะมาขอน้ำของบ่อบำบัดแห่งนี้ ไปใส่ที่นาและที่ไร่ เพื่อใช้ปรับสภาพดิน เนื่องจากน้ำจากบ่อบำบัดกว่า 70 เปอร์เซ็นต์เป็นขยะจากอินทรีย์ จึงเป็นปุ๋ยให้กับพืชผลได้อย่างดี

ส่วนขยะอิเลกทรอนิกส์ หลอดไฟ หรือขยะอันตรายอื่นๆ จะมีการคัดแยกส่งมอบให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ขนย้ายไปทำลายที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง ส่วนขยะที่เป็นถุงพลาสติก ขวดแก้ว จะมีชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเก็บของเก่ามาเก็บจากกองขยะนำไปขาย

สิ่งที่เป็นห่วงตลอดมา คือ สารโลหะหนัก ทั้งสังกะสี แมงกานิส จากการตรวจวัดคุณภาพน้ำในลำน้ำสาธารณะทุก 4 เดือน ไม่พบมีสารเหล่านี้ตกค้าง หรือถ้าพบก็มีจำนวนน้อยมาก เนื่องจากมีการคัดแยกขยะตั้งแต่เบื้องต้นไว้แล้ว และน้ำจากขยะที่นำมาบำบัดก็เป็นขยะจากอินทรีย์

ด้านกลิ่นเหม็นและฝุ่นละอองจากการเผาไหม้ของเตาขยะ โดยเฉพาะขยะจากโรงพยาบาล ยอมรับมีเกิดขึ้นจริง แต่เดิมมีปัญหามาก แต่ทุกวันนี้ปัญหาต่างๆ ได้ลดลงมาก เพราะเทศบาลได้ร่วมกับคณะวิศวกรรมมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เข้ามาแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ เพื่อขจัดปัญหาเรื่องกลิ่นและฝุ่นละอองจากการเผาไหม้ของขยะ

เนื่องจากชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น เป็นผู้เสียสละให้กับคนจังหวัดอุบลราชธานี มีสถานที่ทิ้งขยะ โดยขยะของเทศบาลเมืองวารินชำราบมีเพียง 25 ตันต่อวัน แต่ต้องแบกรับภาระขยะจากอำเภออื่นๆ นำมาทิ้งอีกวันละกว่า 280 ตันต่อวัน

ในปี 2562 เทศบาลจะมีการปรับปรุงและนำเทคนิคใหม่ ใช้ควบคุมกลิ่นเหม็นและฝุ่นละอองจากการเผาไหม้ของขยะมาใช้ ซึ่งจะทำให้แก้ปัญหาเรื่องกลิ่นและฝุ่นละอองที่ยังมีปัญหาอยู่ลดลงอยู่ในระดับที่ชาวบ้านพอใจแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น