อุตรดิตถ์ - สาวใหญ่พร้อมแอดมินเพจดัง ขึ้นโรงพักแจ้งตำรวจกองเมืองอุตรดิตถ์ ดำเนินคดีร่างทรงนารายณ์อวตาร บอกรู้จักกันมา 8 ปี ยกบ้านที่แม่ฮ่องสอนเปิดตำหนัก พอกลับจากต่างประเทศขอให้แก้กรรมช่วยแม่ป่วย กลับหลอกร่วมเซ็กซ์หมู่คาโรงแรม
วันนี้ (14 ธ.ค.) แอดมินเพจบิ๊กเกรียน ได้พา นางบี (นามสมมติ) อายุ 50 ปี สาวใหญ่นักธุรกิจเข้าพบ พ.ต.อ.ดิษยเดช พัชรภูวดล ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ ว่า ร่างทรงชายอายุ 51 ปี พร้อมพวกรวม 4 คน ลวงเข้าโรงแรมดังกลางเมืองอุตรดิตถ์ เพื่อทำพิธีแก้กรรมให้แม่หายป่วย แต่กลับรุมทำอนาจาร และล่วงละเมิดทางเพศจัดเซ็กซ์หมู่ หญิง 4 ชาย 1 แบบพิสดาร
นางบี กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ตัวเองและสามีชาวต่างชาติเดินทางกลับจากประเทศนอร์เวย์ เพื่อมาเยี่ยมแม่ที่ป่วยอยู่ที่อุตรดิตถ์ และทำให้นึกถึงร่างทรงนารายณ์อวตาร อายุประมาณ 52 ปี ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือและรู้จักมากว่า 8 ปี
“ดิฉันรู้จักกับกลุ่มร่างทรงที่แม่ฮ่องสอน เพราะก่อนหน้านั้น ชีวิตล้มเหลวมาตลอด พอได้ปรึกษาและรับคำแนะนำจากร่างทรงคนดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันธุรกิจดีขึ้นตามลำดับ จนเกิดความเลื่อมใสศรัทธาในร่างทรงนารายณ์อวตาร มองว่าเหมือนสวรรค์ส่งให้มาช่วยเหลือประชาชน โดยยอมยกบ้านที่แม่ฮ่องสอน ให้ตั้งเป็นตำหนักตั้งแต่นั้นมา จึงได้นำเรื่องอาการป่วยของแม่ไปปรึกษา จากนั้นมีการนัดหมายทำพิธีแก้กรรม เพื่อหวังให้อาการแม่ดีขึ้น”
นางบี กล่าวอีกว่า ตอนแรกจะประกอบพิธีที่บ้านพ่อและแม่ แต่ร่างทรงอ้างไม่สะดวก จึงนัดพบและเปิดห้องชั้น 6 ที่โรงแรมดังกลางเมืองอุตรดิตถ์ เมื่อถึงเวลานัดหมาย ภายในห้องร่างทรงชาย 1 คน มาพร้อมภรรยา 1 คน และหญิงอีก 2 คนที่อ้างว่าเป็นเหล่าบริวาร หรือแม่ย่าบายศรี
โดยร่างทรงบอกว่า ตนกำลังมีเคราะห์หนัก ต้องทำพิธีแก้กรรมให้แม่ที่ป่วย ไม่เช่นนั้นแม่อาจเสียชีวิตได้ ต่อจากนั้นร่างทรงก็เข้าห้องน้ำถอดเสื้อผ้ายืนรอ และให้หญิง 3 คนที่เป็นเหล่าบริวารกระทำแบบเดียวกับร่างทรง และพูดจาหว่านล้อมให้ตนแก้ผ้าเพื่อประกอบพิธีแก้กรรม เมื่อตนหลงเชื่อกลับให้ร่วมจัดเซ็กซ์หมู่ หญิง 4 ชาย 1 โดยบอกเพื่อแก้เคล็ดให้แม่หายป่วย
“ดิฉันมีธุรกิจต้องเดินทางไปกลับต่างประเทศ จึงไม่ได้รู้ถึงพฤติกรรมของร่างทรงดังกล่าว หลังเกิดเหตุได้นำเรื่องร้องเรียนแอดมินเพจบิ๊กเกรียน และนำมาซึ่งการเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อเอาผิดร่างทรงพร้อมพวกเพื่อจะได้ไม่ให้มีการหลอกหลวงคนอื่นต่อไปอีก”
ด้าน พ.ต.อ.ดิษยเดช กล่าวว่า จะต้องสอบสวนในคดีนี้ด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อหาช่องทางในด้านกฎหมายดำเนินคดีต่อผู้ที่อ้างตนเองว่าเป็นร่างทรง และหลอกลวงให้ผู้เสียหายหลงเชื่อ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
