ฉะเชิงเทรา - ยุติธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ดูแลครอบครัวเหยื่อกราดยิงที่ประเทศฝรั่งเศส เพื่อให้คำแนะนำแก่ครอบครัว พร้อมให้เตรียมหลักฐานและสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัวเพื่อนำส่งพิสูจน์อัตลักษณ์เปรียบเทียบดีเอ็นเอ หากมีการร้องขอ
จากกรณีที่เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงใกล้มหาวิหารสตราสบูร์ก ในประเทศฝรั่งเศส จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บรวม 12 ราย และหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวซึ่งถูกลูกหลง ซึ่งจากการตรวจสอบของทางการไทย ทราบว่า ผู้เสียชีวิตคือ นายอนุพงษ์ สืบสมาน อายุ 45 ปี ผู้บริหารโรงงาน “อึ้ง ฮั่ว เชียง” ซึ่งผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวและขนมจีน “ตราเพียว” ใน จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนภรรยาชาวไทยที่เดินทางไปด้วยกันอยู่ในภาวะปลอดภัย ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตได้เรียกร้องรัฐบาลให้เร่งนำร่างกลับไทยนั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 ธ.ค.) นายธนยศ ยันตะนะ นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ ได้นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางไปยังโรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวและขนมจีนอึ้ง ฮั่ว เชียง ตั้งอยู่เลขที่ 27/6 ม.3 ต.วังตะเคียน อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้คำแนะนำด้านการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ ตลอดจนขั้นตอนต่างๆ ด้านเอกสาร และสิทธิอันพึงได้รับของผู้เสียชีวิต
อีกทั้งยังให้ทางญาติเตรียมนำสิ่งของเครื่องใช้ส่วนตัว หรือเส้นผมของ นายอนุพงษ์ สืบสมาน ผู้เสียชีวิต เพื่อนำส่งไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบดีเอ็นเอ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศที่เกิดเหตุร้องขอมาเพื่อที่จะได้นำส่งไปให้ได้อย่างรวดเร็ว
นายธนยศ กล่าวว่า ในวันนี้ได้เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการช่วยเหลือ เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้แก่ทางครอบครัวของเหยื่อ และแนะนำช่องทางต่อทางญาติว่าจะสามารถติดต่อกับทางกงสุลได้อย่างไร ในการเตรียมเอกสารหลักฐาน เนื่องจากจะต้องมีการตรวจอัตลักษณ์ และตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งทางญาติจะต้องมีการเตรียมสิ่งของเครื่องใช้ของผู้เสียชีวิต หรือของญาติที่ใกล้ชิดไว้
สำหรับมาตรการเยียวยาและช่วยเหลือนั้น ในส่วนของประเทศฝรั่งเศส จะมีเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุก่อการร้าย แต่ยังไม่ทราบว่าเท่าใด โดยเป็นส่วนของทางสถานทูตที่จะประสานให้ นอกจากนี้ ยังมีเงินจากทางบริษัทประกันภัยที่ได้มีการทำประกันภัยเกี่ยวกับการเดินทางไปต่างประเทศเอาไว้กับทางบริษัทอลิอันซ์ อีกส่วนหนึ่งด้วย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการเดินทางเข้าให้คำแนะนำของเจ้าหน้าที่นั้น ทางญาติผู้ใกล้ชิดของนายบอย ไม่ได้ออกมาพบปะหรือพูดคุยด้วย แต่ได้มีการพุดคุยผ่านทางโทรศัพท์ ซึ่งมี นายฉัตรธีรพล ฉัตรชยาวราฉัตร อายุ 58 ปี ผู้ดูแลโรงงานและเป็นลูกผู้พี่ของ นายบอย ซึ่งเป็นบุตรชายของพี่ชายมารดา ที่อยู่ประจำภายในโรงงาน เข้ามาเป็นผู้ประสานงานและพูดคุยด้วยเท่านั้น
