ศรีสะเกษ - คืบหน้าไฟไหม้ตลาดสดกลางเมืองศรีสะเกษ ไฟยังคุกรุ่น สรุปวอด 14 หลังสูญกว่า 10 ล้าน นายกเล็กเมืองศรีสะเกษแจงช่วยเหลือหลังละ 33,000 บาท ตะลึงรถยนต์ 2 คันรอดอย่างน่าอัศจรรย์ทั้งที่ไฟไหม้บ้านทั้งหลัง
วันนี้ (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีกลางดึกของคืนวันที่ 10 ธ.ค.ได้เกิดเพลิงไหม้ตลาดสดเทศบาล 3 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ครั้งใหญ่ท่ามกลางกระแสลมแรง ระดมรถดับเพลิงจำนวน 17 คันช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงกัน ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าไฟได้ลุกไหม้จากร้านเพิ่มทรัพย์ ทำให้ร้านค้าถูกไฟไหม้ไปกว่า 15 หลัง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุดที่บริเวณตลาดสดเทศบาล 3 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดเพลิงไหม้ ปรากฏว่าขณะนี้ยังมีควันไฟลอยคุกรุ่นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องคอยควบคุมดูแลสถานที่เกิดเหตุอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีก เนื่องจากบริเวณเพลิงไหม้มีเศษวัสดุที่ยังสามารถเป็นเชื้อไฟได้อยู่เป็นจำนวนมาก ทรัพย์สินรวมทั้งสินค้าต่างๆ ที่อยู่ในร้านค้าโดนไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
จากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นพบว่าร้านค้าได้รับความเสียหายจำนวน 14 คูหา รถยนต์ 2 คัน รถมอเตอร์ไซค์ 1 คัน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 18 ครัวเรือน 72 คน แต่นับว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบบริเวณเพลิงไหม้พบว่า ที่บ้านเลขที่ 1201/80 ซึ่งถูกไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง แต่ปรากฏว่ารถยนต์ 2 คันที่จอดอยู่ภายในบ้าน คือ รถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน กข 8688 ศรีสะเกษ และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กข 640 ศรีสะเกษ ไม่โดนไฟไหม้แต่อย่างใ ได้รับความเสียหายเพียงไฟไหม้สีรถเสียหายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งที่ตัวบ้านและรอบบริเวณบ้านถูกไฟไหม้ยับเยินทั้งหมด สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกัน นายเพิ่มศักดิ์ ฉวีรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ และคณะ ได้นำเอาน้ำดื่มและถุงชีพมามอบแก่ชาวบ้านที่ประสบอัคคีภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่มาให้การรักษาพยาบาลชาวบ้านที่เจ็บป่วยจากเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย
นายฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมืองศรีสะเกษ กล่าวว่า ร้านค้าที่ถูกเพลิงไหม้เป็นร้านที่ขายสินค้าใช้ในชีวิตประจำวัน โดนไฟไหม้ไปจำนวนทั้งสิ้น 14 ร้านค้า เสียหายทั้งหมด ส่วนค่าเสียหายประมาณร้านค้าละ 500,000 บาท เป็นสินค้ที่อยู่ในร้านและทรัพย์สินอื่นๆ รวมแล้วค่าเสียหายจากการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ประมาณ 10 ล้านบาทเศษ ในส่วนของการช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการนั้นจะแยกเป็น 2 ส่วน โดยมีทั้งบ้านเช่า และบ้านที่เป็นของตนเองและเป็นผู้ประกอบการด้วย ซึ่งหากเป็นบ้านของตนเองที่โดนไฟไหม้ทั้งหลังจะได้รับเงินช่วยเหลือหลังละ 33,000 บาท ส่วนที่เป็นบ้านเช่า จะได้รับการช่วยเหลือหลังละ 11,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จะหาทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบภัยพิบัติอย่างเต็มที่ที่จะสามารถให้การช่วยเหลือได้ อีกทั้งตนเป็นประธานมูลนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน จะได้หารือกับคณะกรรมการของมูลนิธิฯ เพื่อหาทางในการช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกไฟไหม้บ้านอย่างเร่งด่วนและอย่างเต็มที่ต่อไป นายฉัฐมงคลกล่าวในตอนท้าย
