นครปฐม - เสี่ยโหน่ง ลูกไม้ใต้ต้นไชยา เดินหน้าสมัครสมาชิกพรรคชาติไทย พัฒนาเผยแค่เรียนรู้ ชี้สนามเลือกตั้งนครปฐม ประชาชนยึดบุคคล ไม่ว่า สะสมทรัพย์ จะสวมเสื้อพรรคไหน
หลังจากที่ ดร.พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ผู้จัดการทีมนครปฐมยูไนเต็ด หรือ เสี่ยโหน่ง บุตรชายของ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ได้เดินหน้าสมัครเข้าเป็นสมาชิกชาติไทยพัฒนา (ชพท.) ทำให้สถานการณ์ในแวดวงการเมืองในจังหวัดนครปฐม ได้เกิดกระแสการตื่นตัวขึ้นอีกระรอก
หลังจากที่ก่อนหน้า นายอนุชา สะสมทรัพย์ ผู้เป็นอา และน้องชายคนสุดท้องของ 4 พี่น้อง สะสมทรัพย์ ได้ก้าวขึ้นไปนั่งในตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และถูกจับตามองว่านี่คือการก้าวเข้าสู่เจอเนอร์เรชั่นที่สองของตระกูลสะสมทรัพย์ ในยุคที่จะเป็นการสู่การยกทัพย้ายพรรคอีกครั้งเพื่อเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง และเป็นการสืบทายามทางการเมืองของ นายไชยา หลังจากที่ได้วางรากฐานที่เหนียวแน่นทางการเมืองมาอย่างยาวนาน
ดร.พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ ผู้จัดการทีมนครปฐมยูไนเต็ด เผยว่า ชีวิตที่ผ่านมาระยะ 6 ปี มีความสุขที่สุดกับการทำทีมนครปฐมยูไนเต็ด ซึ่งถือเป็นทีมฟุตบอลของชาวจังหวัดนครปฐม และได้ทำเซอไพร์ ด้วยการพาทีมนครปฐมยูไนเต็ด คว้าถึง 3 แชมป์ ประวัติศาสตร์และเป็นการเปิดหน้าใหม่ของวงการฟุตบอลในประเทศ และนี่เป็นจุดที่ทำให้แฟนคลับและฐานเสียงในจังหวัดนครปฐม ได้ส่งสัญญาณเชิญชวนให้ เสี่ยโหน่ง ก้าวลงสู่สนามการเมืองตามรอยคุณพ่อ ซึ่งเป็นนักการเมืองหมายเลขหนึ่งของจังหวัดนครปฐมเพราะนี่อาจจะถือเป็นเวลาที่เหมาะสมและลงตัวที่สุด หลังการบริหารจัดการในทีมฟุตบอลของชาวนครปฐมกำลังทะยานกลับไปสู่เส้นทางในฟุตบอลอาชีพที่ตั้งเป้าไว้
ดร.พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์ หรือเสี่ยโหน่ง เผยว่า ฟุตบอลคือเป้าหมายที่หลักที่อยากทำ และได้ทำอย่างมีความสุขแล้วในช่วงเวลานี้ ส่วนกระแสของการเดินหน้าเข้าสมัครเป็นสมาชิกของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) เป็นเพียงการแสดงความสนใจในด้านการเมืองเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสนามแบบเต็มตัวเหมือนข่าวที่มีออกไปก่อนหน้า แม้จะมีการเมืองแวบเข้ามาในความคิดแต่ก็ยังวางเป้าหมายในการทำทีมฟุตบอลเป็นอันดับหนึ่งโดยมี "มาดามหน่อย" ดร.ชุตินันศ์ สะสมทรัพย์ ภรรยา และลูกๆ คอยยืนเคียงข้างในการทำสิ่งที่รักมาโดยตลอด
ดร.พาณุวัฒณ์ กล่าวว่า การที่มีกระแสพูดถึงตนเองในเรื่องการมาสู่ถนนการเมือง วันนี้ก็ยังไม่ได้คิดอะไรมาก การไปสมัครสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) เป็นเรื่องของการหาข้อมูลทางด้านการเมืองเท่านั้น และต้องรู้ก่อนว่าการเมืองที่แท้จริงตอนนี้คืออะไร แต่หากมีโอกาสที่จะเข้ามาทำงานก็ยินดีที่จะได้ทำงานเพื่อบ้านเมืองให้กับชาวนครปฐมแต่จะไม่มีทางหยุดทำทีมฟุตบอลและขอทำแบบสองอย่างคู่ขนานกันไปแต่ที่ยึดมั่นคือจะไม่เอาเรื่องของการเมืองมายุ่งกับฟุตบอลและฟุตบอลจะไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองให้ปนกันแน่นอน
“ในฐานะที่เป็นทายาทนักการเมืองหมายเลขหนึ่งของจังหวัดนครปฐม ผมเห็นคุณพ่อทำงานด้วยการช่วยเหลือคนมามากมาย ตั้งแต่เด็กจนโต ผมเห็นคุณพ่อตื่นตั้งแต่ตี 4 และลงมาหน้าบ้านตี 5 โดยยังสวมชุดนอนเพื่อมาพบแขกที่จะมาขอความช่วยเหลือทุกวัน ตั้งแต่เรื่องลูกไม่มีที่เรียนไปจนถึงบ้านถูกตัดไฟฟ้า ซึ่งคุณพ่อผมฟังทุกเรื่องที่คนมาขอความช่วยเหลือและพยายามทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มกลับ ซึ่งคุณพ่อผมบอกว่าคุณพ่อเล่นการเมืองแบบผ่อนส่ง ตรงนี้ผมยอมรับว่าคุณพ่อทำได้จริงและเป็นงานที่ยากมาก ๆ แต่คุณพ่อทำให้เห็นแล้ว ผมว่าผมยังไม่สามารถที่จะทำแบบคุณพ่อได้” เสี่ยโหน่งกล่าวเสริม
สำหรับการจะเข้าสู่ถนนการเมืองของตนเองได้ถูกจับตามองจากกลุ่มต่าง ๆ คงต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่จะสั่งการลงมา ตนเองเป็นลูกเรือก็ต้องอาศัยไต้ก๋งเรือเป็นผู้นำทางซึ่งหากได้เข้ามาทำงานก็ต้องบอกว่างานการเมืองเหมือน กรุงโรม คือไม่ได้สร้างเพียงวันเดียว ไม่มีอะไรทำได้ในวันเดียว ซึ่งนักการเมืองที่เคยทำงานอยู่ก็ทำงานกันดีอยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าการเป็นนักการเมือง คือเป็นผู้อาสามารับใช้ประชาชน การรับใช้คืออะไร มันคือความชัดเจนว่าเรื่องไหนทำได้ก็บอกว่าได้ ทำไม่ได้ก็ต้องบอกตรง ๆว่าไม่ได้
และการเป็น ส.ส. ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ทุกเรื่องมันมีข้อจำกัดในส่วนของการทำงานแต่อย่างน้อยก็จะต้องบรรเทาทุกให้กับพี่น้องประชาชนได้และสิ่งที่อยากจะทำให้ชาวนครปฐมก็อยากจะให้จังหวัดนครปฐมเหมือนจังหวัดอื่น ๆที่มีความก้าวหน้า เป็นไปได้ไม่อยากมีถนนลูกรังหลงเหลือและทำให้การค้าการขายเป็นไปอย่างคึกคักมีเงินใช้เต็มกระเป๋าและหากคุณพ่อสั่งการลงมาให้เราลงรับสมัครเลือกตั้งก็คงปฏิเสธไม่ได้แต่ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกันในลายละเอียด
“วันนี้ยอมรับว่า สะสมทรัพย์ ทั้งหมดได้ยกทัพไปที่ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชพน.) ทั้งหมดหรือยัง คำตอบคือใช่ ทั้งนี้เพราะการที่คุณอา นายอนุชา สะสมทรัพย์ (เฮียหมวย) น้องชายคนสุดท้องใน 4 พี่น้อง ได้ไปนั่งในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมด้วยพี่ๆ ประกอบด้วย นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายไชยศ สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และคุณพ่อ นายไชยา สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวงและล่าสุดในตำแหน่งอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณะสุข ซึ่งที่เราตัดสินใจเพราะได้มีการศึกษาดูแล้ว พรรคนี้ไม่มีความขัดแย้งและสังคมเราตอนนี้ต้องการลดความขัดแย้งทางการเมืองและตระกูลสะสมทรัพย์พร้อมจะทำงานภายใต้การลดความขัดแย้งในสังคม”
ดร.พาณุวัฒณ์ ได้ไขข้อช้องใจ สำหรับทิศทางของสถานการณ์การเมือง ของนายไชยา สะสมทรัพย์ บิดาตอนนี้ซึ่งยังไม่ได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจน ส่วนตัวยังอยากให้คุณพ่อลงมาทำงานในการเมืองต่อไป เพราะสิ่งที่ทำมานั้นมีเยอะมากมาย ผมยอมรับว่ายังทำแบบที่ท่านทำไม่ได้ ท่านเจอปัญหามาตลอดและจบปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ ส่วนเรื่องสุขภาพที่หลายคนเป็นห่วงตอนนี้ผมก็ดูแลท่านอย่างใกล้ชิด และมีที่อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ
“วันนี้มีคนถามว่า ตระกูลสะสมทรัพย์ จะยังครองใจคนนครปฐมได้หรือไม่เมื่อได้ย้ายบ้านเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ ก็ต้องบอกว่า คนนครปฐมยังเชื่อในตัวบุคคล เพราะที่ผ่านมา ตระกูลสะสมทรัพย์ นั้นเคยผ่านการย้ายพรรคมามากมายตั้งแต่ในยุคพรรคเอกภาพ พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย พรรคไทยรักไทย และวันนี้ก็ไม่แปลกที่จะสวมเสื้อในนามพรรคชาติไทยพัฒนา เราก็ยังคงเป็นสะสมทรัพย์ การทำงานที่ผ่านมาก็เป็นที่รู้ดีของคนในพื้นที่อยู่แล้ว” เสี่ยโหน่งกล่าวปิดท้าย
สำหรับ การขยับทิศทางทางการเมืองของตระกูลสะสมทรัพย์ ครั้งนี้ถือเป็นก้าวใหม่อีกครั้ง เมื่อมีการปรับทัพด้วยการย้ายเข้าสู่สังกัดใหม่ ในนามพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งที่ผ่านมาการไปสังกัดกับไม่ว่าจะพรรคการเมืองใด ก็ได้นั่งในตำแหน่งสำคัญทางการเมืองมาโดยตลอด ซึ่งในครั้งนี้กับบทบาทของดร.พาณุวัฒณ์ หรือเสี่ยโหน่ง ว่าจะตัดสินใจอย่างใจอย่างไรกับก้าวแรกของถนนการเมืองที่เคยเห็นมาตั้งแต่เด็กซึ่งหาก เสี่ยโหน่งตัดสินใจ ที่จะเข้ามาสานต่องานทางการเมืองของนายไชยา จะเป็นบุตรชายคนแรกและทายาทของ ตระกูลสะสมทรัพย์คนแรกที่จะได้ลงมาสานต่อการทำงานในช่วงรอยต่อทางการเมือง ทั้งจากภายนอก คือการที่รัฐบาลจะเปิดให้มีการเลือกตั้งในอนาคตอันใกล้ และจากภายในคือการก้าวเข้ามาเป็นการทำงานสานต่องานของบิดา ซึ่งที่ผ่านมาชาวนครปฐม ก็รู้จักเสี่ยโหน่งเป็นอย่างดีอยู่แล้วเช่นกัน ขึ้นอยู่กับว่าทั้งสองคนพ่อลูกจะมีการหารือตกลงกันอย่างไรในเวลาอันใกล้นี้