xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพภาค 3 ย้ำบูรณาการ 9 จังหวัดเหนือป้องกันแก้ไขหมอกควัน-กำชับจัดระเบียบการเผา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แม่ทัพน้อยที่ 3 นั่งหัวโต๊ะประชุมหน่วยงาน 9 จังหวัดภาคเหนือ เน้นย้ำเตรียมพร้อมขับเคลื่อนมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน บูรณาการทุกภาคส่วนร่วมมือ กำชับจัดระเบียบการเผา



วันนี้ (30 พ.ย. 61) ที่สโมสรกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ พลโท สุภโชค ธวัชพีระชัย แม่ทัพน้อยที่ 3 และผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ส่วนหน้า (ศอ.ปกป.ภาค สน.) เป็นประธานการประชุมประสานงานการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ประจำปีงบประมาณ 2562 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจาก 9 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมการประชุมเพื่อประสานงานการปฏิบัติ โดยให้ส่วนราชการพลเรือนเป็นหน่วยงานหลัก โดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่ให้ปฏิบัติตามมาตรการและกฎหมายที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอย่างเคร่งครัด


แม่ทัพน้อยที่ 3 กล่าวว่า ในช่วงหน้าแล้งระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนของทุกปีจะพบการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน สิ่งแวดล้อม และสภาวะเศรษฐกิจของพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งในปีที่ผ่านมาสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการดำเนินชีวิตของประชาชน ซึ่งสาเหตุและปัจจัยทำให้เกิดไฟป่าและหมอกควันที่สำคัญ ได้แก่ การเผาป่า เพื่อหาของป่า และล่าสัตว์, การเผาทำลายเศษวัสดุเหลือใช้จากการเกษตร โดยไม่มีการจัดระเบียบการเผาที่ดีพอ ตลอดจนการเกิดหมอกควันข้ามแดนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น


ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 3 และศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาค ได้มอบหมายให้กองทัพน้อยที่ 3 จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคส่วนหน้าขึ้น โดยมีภารกิจในการวางแผน อำนวยการ ควบคุมและกำกับดูแลการปฏิบัติของชุดรณรงค์ป้องกันไฟป่าและหมอกควันทั้ง 14 ชุด รวมทั้งอำนวยการและบูรณาการการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับจังหวัด ในห้วงวันที่ 1 ธ.ค. 61-30 เม.ย. 62 เพื่อประสานงานกับหน่วยราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ร่วมรณรงค์สร้างจิตสำนึก ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ราษฎรในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนการเกิดไฟป่าและป้องกันไม่ให้เกิดไฟป่าขั้นรุนแรง



จากปีที่ผ่านมา ในพื้นที่ทั้ง 9 จังหวัดภาคเหนือตรวจพบจุดความร้อนจำนวน 4,722 จุด โดยตรวจพบจังหวัดที่มีจุดความร้อนสะสมสูงตามลำดับ คือ จังหวัดตาก, จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (Gistda) ได้สรุปสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ประจำปี 2562 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีจุดความร้อนสะสมเฉลี่ยสูงสุดประมาณ 4,920 จุด และต่ำสุด 3,280 จุด เฉลี่ยประมาณ 4,323 จุด ลดลง 400 จุด หรือ 8%


สำหรับปีงบประมาณ 2562 ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ส่วนหน้า มีแนวทางดำเนินการ 3 ห้วง ได้แก่ ห้วงก่อนประกาศห้ามเผาเด็ดขาด (ชิงเผา), ห้วงประกาศห้ามเผาเด็ดขาด (60 วันอันตราย) และห้วงหลังประกาศห้ามเผาเด็ดขาด โดยในระดับจังหวัดควรประกาศห้วงห้ามเผาเด็ดขาดก่อนล่วงหน้า 2 เดือน และกำหนดห้วงเวลาการชิงเผาอย่างเป็นระบบ ทั้งก่อนและหลังล่วงหน้าอย่างน้อย 1 เดือน ก่อนห้วงห้ามเผาเด็ดขาดของจังหวัด โดยให้ผู้นำท้องที่/ท้องถิ่น กำกับดูแลและควบคุม เพื่อให้เป็นไปตามแผนและห้วงเวลาที่กำหนด ตลอดจนมีการประชาสัมพันธ์ รณรงค์ทุกรูปแบบอย่างต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม ศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค ส่วนหน้าจะใช้กลไกประชารัฐ โดยให้ทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมมือกัน แก้ไขปัญหามุ่งเน้นการรณรงค์สร้างจิตสำนึกและใช้การประชาสัมพันธ์ด้วยสื่อทุกชนิด เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากไฟป่าและหมอกควัน ตลอดจนการเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังและแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น