xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจ สภ.กมลาไสยคุมตัวเลขาฯ นายก ทต.ดงลิง แจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กาฬสินธุ์ - ตำรวจ สภ.กมลาไสยคุมตัวเลขาฯ นายก ทต.ดงลิง หลังถูกจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ด้านเจ้าตัวปฏิเสธ อ้างทำตามนายกสั่งเท่านั้น ขณะที่ ผกก.สภ.กมลาไสยเผยพบเบาะแสนายก ทต.ดงลิงหนีไปบวช แต่คาดว่าอาจหนีไปกบดานฝั่งเพื่อนบ้าน



จากกรณีชาวบ้านเมย หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 11 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และตัวแทนคณะกรรมการกองทุนต่างๆ ใน ต.ดงลิง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.กมลาไสย เพื่อดำเนินคดี นายประยูร เห็มวิพัฒน์ นายกเทศมนตรีตำบลดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ และเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม โดยชาวบ้านและเป็นสมาชิกกองทุนฯ ระบุว่านายประยูรได้ยักยอกเงินกู้กองทุนต่างๆ ของหมู่บ้าน และหลอกให้ชาวบ้านกู้เงินจากธนาคารออมสิน สาขาท่าคันโท และธนาคารออมสิน สาขากมลาไสย เพื่อนำไปลงทุน แล้วรับปากว่าจะเป็นผู้ใช้หนี้กับธนาคาร

แต่กลับไม่ยอมใช้หนี้และนำเงินหนีหายไป จนทำให้ชาวบ้านหลายรายถูกธนาคารฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย เบื้องต้นรวมมูลค่ากว่า 5.5 ล้านบาท ต่อมาตำรวจ สภ.กมลาไสยได้ขออนุมัติหมายจับนายประยูรในข้อหาฉ้อโกงประชาชนและข้อหายักยอกทรัพย์อีก 2 หมายจับตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (29 พฤศจิกายน 2561) พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สภ.กมลาไสย เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าของคดี หลังจากพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่ออนุมัติหมายจับนายประยูร เห็มวิพัฒน์ ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนไปแล้ว 1 หมาย และขออนุมัติหมายจับนายประยูร เพิ่มเติมอีก 2 หมาย ในข้อหายักยอกทรัพย์ หลังจากมีคณะกรรมการและประชาชนแจ้งความดำเนินคดีว่านายประยูรได้ยักยอกเงินของกองทุนนันทนาการหมู่บ้าน และเงินกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกครอบครัว

ล่าสุดพนักงานสอบสวนขออนุมัติหมายจับในข้อหายักยอกทรัพย์เพิ่มอีก 1 หมาย ที่ชาวบ้านได้แจ้งความยักยอกเงินกองทุนหมู่บ้านรวมทั้งหมดเป็น 4 หมายจับ

พ.ต.อ.ระพีพัฒน์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังขออนุมัติออกหมายจับนางดอกไม้ เวียงสมุทร อายุ 53 ปี ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเลขานุการฯ นายประยูร ในฐานะประธานกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกครอบครัว ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากการสอบปากคำผู้เสียหายและมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวนางดอกไม้ ที่ได้ดำเนินการเก็บและจ่ายเงินกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกครอบครัว และกองทุนต่างๆ

โดยศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ได้อนุมัติหมายจับที่ จ.413/2561 ลงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งตำรวจ สภ.กมลาไสยและชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่กดดันเร่งติดตามตัว กระทั่งสืบทราบว่านางดอกไม้ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับได้ไปร่วมงานแต่งงานของหลานนายประยูรใน ต.ดงลิง จึงนำกำลังไปควบคุมตัวและเชิญตัวมาสอบปากคำ

พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมี พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กมลาไสยดำเนินการสอบปากคำ โดยนางดอกไม้ พร้อมทนายความได้เข้าให้ปากคำตำรวจและปฏิเสธข้อหา

สำหรับการติดตามตัวนายประยูรนั้น เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนพบเบาะแสว่าก่อนหน้านี้ได้ไปบวชเป็นพระที่วัดแห่งหนึ่งในเทือกเขาภูพานเป็นเวลา 3 เดือน และได้ทำการลาสิกขาบทไปนานแล้ว จากนั้นมีชาวบ้านเข้ามาแจ้งความก่อนที่จะหายตัวไป ล่าสุดขณะนี้คาดว่าน่าจะหลบหนีไปยังต่างจังหวัดหรือไม่ก็หลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้ว แต่ชุดสืบสวน สภ.กมลาไสยก็ยังลงพื้นที่หาข่าวอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ด้านนางดอกไม้ เวียงสมุทร ซึ่งเดินทางเข้าให้ปากคำ พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.กมลาไสย พร้อมกับนายอภิวัฒน์ สาระภักดี ทนายความ เปิดเผยว่า ตนให้การปฏิเสธข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน แต่ยอมรับว่าได้ไปเก็บเงินและจ่ายเงินให้สมาชิกเงินกองทุนสวัสดิการสงเคราะห์สมาชิกครอบครัวจริง แต่เป็นการทำหน้าที่ตามคำสั่งเจ้านายหรือผู้บังคับบัญชาในฐานะเลขานุการกองทุนฯ เท่านั้น โดยหลังจากเก็บเงินมาแล้วก็มอบให้นายประยูร ซึ่งมีตำแหน่งเป็นประธานกองทุนฯเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด

ส่วนเงินจะหายไปไหน หรือจ่ายให้กับใครบ้าง และไม่จ่ายใครบ้านนั้นตนไม่ทราบ ทั้งนี้ตนไม่สามารถติดต่อนายประยูรได้ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2561 และหลังมีชาวบ้านเข้ามาแจ้งความตนก็ไม่สามารถติดต่อกับนายประยูรได้อีกเลย


กำลังโหลดความคิดเห็น