ชัยนาท - หนุ่มเจ้าของฉายา "ไอ้คล้าว 2018" เข้าพบอัยการคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดชัยนาท ขอคำแนะนำด้านกฎหมาย ก่อนพบตำรวจ สน.คันนายาว หลังถูกแจ้งความฉ้อโกงประชาชน จากการโพสต์เฟซบุ๊กเรี่ยไรเงินไถ่เจ้าทองคำควายยิ้ม พร้อมแจงเข้าใจคำว่า "ไถ่" ผิด ความจริงจะนำเงินไปซื้อเจ้าทองคำจากเจ้าของตัวจริง
จากกรณี นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือไอ้คล้าว 2018 หนุ่มเลี้ยงควายชาวจังหวัดชัยนาท ถูกแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จากการโพสต์เฟซบุ๊กเรี่ยไรขอเงินบริจาคไถ่ชีวิตควายชื่อทองคำ และพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว เจ้าของคดี ได้ยึดควายทองคำไปไว้ที่ สน.คันนายาว แล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้
ล่าสุด วันนี้ (28 พ.ย.) นายสุรัตน์ แผ้วเกตุ หรือไอ้คล้าว 2018 ได้เดินทาง พร้อมกับ นางกนกกรณ์ แผ้วเกตุ ภรรยา และนายสมชาติ สุดโสม พ่อตา เพื่อเข้าพบกับ นายมนตรี สิงหะ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดชัยนาท นายอุเทน ทิพย์สิงห์ นิติกร สำนักงานยุติธรรมจังหวัดชัยนาท และ น.ส.ปวีณา สุขแก้ว นิติกร กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จ.ชัยนาท
เพื่อขอคำปรึกษาเกี่ยวกับด้านกฎหมาย หลัง นายสุรัตน์ ตกเป็นผู้ต้องหาฐานฉ้อโกงประชาชน จากการโพสต์เฟซบุ๊ก และให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อขอเรี่ยไรเงินบริจาคไถ่ควายเพศผู้ ชื่อ เจ้าทองคำ ซึ่งเป็นควายที่ นายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า อ.เนินขาม จ.ชัยนาท นำมาฝากเลี้ยงไว้ ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สน.คันนายาว ตามหมายเรียกต่อไป
เบื้องต้น อัยการจังหวัด และนิติกร ได้ให้คำปรึกษาตามขั้นตอนของกระบวนการกฎหมาย รวมทั้งสิทธิต่างๆ ที่สามารถร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานด้านยุติธรรมได้ เช่น การขอทนายความเข้าร่วมรับฟังการสอบสวน การขอเงินช่วยเหลือประกันตัว และค่าทนายความ รวมถึงหากคู่กรณีต้องการให้มีการไกล่เกลี่ย สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯ จะติดต่อให้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเจรจาไกล่เกลี่ย เพื่อให้ยุติปัญหาทางด้านสังคม แต่จะไม่มีผลทางด้านคดีความ
ภายหลังเข้าพบอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิฯ แล้ว นายสุรัตน์ เปิดเผยว่า ทางอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิฯ จะประสานให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ย ระหว่างตนกับคู่กรณี แต่ยังไม่ได้ระบุวันที่ ส่วนทางด้านตำรวจเจ้าของคดี ยังไม่ได้ติดต่อมาหาตนแต่อย่างใด ซึ่งตนก็พร้อมที่จะเดินทางไปให้ปากคำ แต่ขอให้มีทนายความไปรับฟังการสอบสวนพร้อมกับตนด้วย เพราะตนไม่ค่อยมีความรู้เรื่องกฎหมาย ยืนยันว่าจะให้ความร่วมมือทุกขั้นตอน เพื่อให้เรื่องจบโดยเร็ว จะได้นำควาย เจ้าทองคำ กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม เพื่อจะได้สร้างรอยยิ้มให้ทุกคนได้เห็นเหมือนเดิม และจะได้พัฒนาพื้นที่ตามที่คิดฝันไว้ ให้เป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อให้เด็กๆ จะได้รู้จักควายไทยที่อยู่คู่มากับชาวนา โดยตนรู้สึกเป็นห่วงและคิดถึงเจ้าควายทองคำมาก เพราะเคยนอนปลัก วิ่งเล่น ขี่หลังด้วยกันทุกวัน อยากให้ทองคำกลับมาอยู่ด้วยกันไวๆ จะได้สร้างรอยยิ้มให้เพื่อนชาวเฟซบุ๊กได้เห็นเหมือนเดิม
ส่วนเรื่องที่ตนพูดคำว่า “ไถ่” ผ่านสื่อในการขอเรี่ยไรเงินบริจาคนั้น เพราะตนเข้าใจว่าคำว่า “ไถ่” หมายถึงการซื้อ ที่จะนำมาเลี้ยงไว้ตลอดโดยไม่มีการขายต่อ เหมือนเช่นการเช่าพระเครื่อง ที่ใช้คำว่า “เช่าพระ” แทนการใช้คำว่า “ซื้อพระ” โดยไม่มีเจตนาเป็นอย่างอื่น สำหรับเงินบริจาค จำนวนกว่า 160,000 บาท ที่ประชาชนบริจาคมาให้ก็ยังอยู่ในบัญชีเหมือนเดิม มีการเบิกเงินไปเพียง 100,000 บาทเท่านั้น เพื่อนำไปให้ นายบุญเลิศ การภักดี นายก อบต.สุขเดือนห้า เพื่อเป็นค่าซื้อเจ้าควายทองคำ และได้ประกาศปิดรับเงินบริจาคไปแล้ว
