ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ชมรมลมวิเศษ จัดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้โรคถุงลมโป่งพอง เนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลก พร้อมเปิดตัว กำไลวิเศษ : สายรัดข้อมืออัจฉริยะพร้อม QR Code ช่องทางใหม่ดูแลผู้ป่วยในประเทศไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่บริเวณด้านหน้าขอนแก่นฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และให้กำลังใจแก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง เนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลก โดยชมรม “ลมวิเศษ” ภายใต้โครงการอุ่นใจเมื่อใกล้แพทยสมาคมฯ รณรงค์วันโรคถุงลมโป่งพองโลก “WORLD COPD DAY 2018”
โดยมี รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พญ.นาฏ ฟองสมุทร หัวหน้าโครงการอุ่นใจใกล้แพทยสมาคม รศ.นพ.อภิชาติ จิระวุฒิพงศ์ ผอ.โรงพยาบาลศรีนครินทร์ นายสมกมล จิราธิวัฒน์ ผอ.อาวุโส บ.กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ดร.ปรีชา คฤหวาณิช ประธานที่ปรึกษาภาคประชาคม ชมรมลมวิเศษ นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการ ผจก.ใหญ่ บ.แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด นางนิสา ชาภู่พวง ผู้จัดการ ทั่วไปศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ขอนแก่น และผู้สนใจร่วมงานกว่า 1,000 คน
รศ.นพ.วัชรา บุญสวัสดิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. และกรรมการที่ปรึกษาชมรมลมวิเศษ กล่าวว่า โรคถุงลมโป่งพองนับเป็นปัญหาสาธารณสุขของประชากรโลก โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณปีละ 3 ล้านคนทั่วโลก ขณะที่ประเทศไทย พบผู้ป่วยราว 1.5 ล้านคน และมีการเสียชีวิตจากโรคนี้ประมาณ 6,000 คนต่อปี หรือวันละ 16 คน โรคถุงลมโป่งพอง ถือเป็นโรคร้ายแรงที่ประเทศไทยควรมีมาตรการป้องกันและรักษาโดยเฉพาะเพื่อลดอุบัติการณ์เกิดโรค
เนื่องจากโรคถุงลมโป่งพอง ส่งผลอย่างมากต่อสังคมและเศรษฐกิจ เนื่องมาจากค่าใช้จ่ายในการรักษาการ เสียโอกาสทางการทำงาน รวมไปถึงการมีคุณภาพชีวิตที่แย่ลงของผู้ป่วย และครอบครัวผู้ดูแล
สำหรับการรณรงค์ทั่วโลกในปีนี้มุ่งเน้น ธีม Never too Early, Never too late นั่นคือ ไม่มีคำว่าเร็วเกินไปสำหรับการมาตรวจวินิจฉัยโรค ยิ่งตรวจได้เร็วเท่าไหร่ก็ลดอาการของโรคได้เร็วขึ้น แต่เมื่อเป็นโรคแล้วก็ไม่สายเกินไปที่จะดูแลรักษา ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการเหนื่อยง่ายแล้วถึงได้มาตรวจโรค ซึ่งเวลานั้นปอดถูกทำลาย เสื่อมสภาพไปแล้ว และไม่สามารถฟื้นคืนสภาพเดิมได้ ดังนั้น ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่ควรมาตรวจสมรรถภาพปอดแต่เนิ่นๆ หากมีการตรวจและรักษาโรคได้เร็วก็ช่วยลดอาการของโรคได้
สำหรับโรคถุงลมโป่งพอง เกิดจากการสูดหายใจเอามลพิษในอากาศฝุ่นละออง หรือสารเคมีเป็นปริมาณมากได้ติดต่อกัน เช่น ควันบุหรี่ ควันพิษในอากาศโดยสารพิษจากควันจะทำลายถุงลมและปอดให้เสื่อมสภาพ ผู้ป่วยจะมีอาการไอแบบมีเสมหะ เป็นๆ หายๆ หอบเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อาจหายใจมีเสียงหวีดในลำคอมและอาจรู้สึกเจ็บหน้าอกร่วมด้วย เมื่อมีอาการรุนแรงมากขึ้นจะเกิดภาวะความดันโลหิตสูงของหลอดเลือดที่ไหลเข้าสู่ปอด ซึ่งมีผลทำให้เกิดภาวะหัวใจวายได้
คุณหญิงสมกมล จิราธิวัฒน์ ผู้อำนวยการ อาวุโสบริษัทกลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ในฐานะคณะทำงานชมรมลมวิเศษ กล่าวว่า โรคถุงลมโป่งพองนับเป็นโรคร้ายแรงและเป็นต้นเหตุการเสียชีวิตใน 10 อันดับแรกของคนไทย ชมรมลมวิเศษ จึงถือกำเนิดขึ้นด้วยความห่วงใยและปรารถนาดี จากแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยและภาคประชาสังคมที่มีจิตสาธารณะเพื่อเสริมสร้างพลังบวกให้แก่ผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง และครอบครัวเพื่อการใช้ชีวิตร่วมกับโลกอย่างมีคุณภาพ เนื่องจากโรคถุงลมโป่งพองเป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด
สำหรับการจัดกิจกรรมเนื่องในวันโรคถุงลมโป่งพองโลกครั้งนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้พบปะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ป่วยอื่น ตลอดจนเพื่อการเผยแพร่ความรู้ด้านการดูแลผู้ป่วย และการใช้ดนตรีบำบัด รวมทั้งการตรวจสมรรถภาพปอด และให้คำปรึกษาเลิกบุหรี่แก่ผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยและครอบครัวได้เข้าถึงการรักษาเพื่อเปลี่ยนความทุกข์ทรมานที่มีอยู่เดิมเป็นความสุขทั้งกายและใจอย่างแท้จริง
ทางด้าน ดร.ปรีชา คฤหวาณิช ประธานบริหาร บริษัท วินเซิร์ฟ คอร์ปอเรชั่นจำกัด และประธานที่ปรึกษาภาคประชาสังคมชมรมลมวิเศษ กล่าวว่า ชมรมลมวิเศษ ได้จัดเตรียมกำไลวิเศษ หรือสายรัดข้อมืออัจฉริยะ สำหรับผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการเก็บข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นของผู้ป่วย เช่นชื่อนามสกุล ที่อยู่หมายเลขโทรศัพท์ติดต่อของครอบครัว โรงพยาบาลที่ผู้ป่วยใช้บริการเป็นประจำ รวมทั้งโรคที่ผู้ป่วยรับการดูแลรักษาอยู่
โดยเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน สามารถสแกนคิวอาร์โค้ดที่กำไลวิเศษจะปรากฏข้อมูลของผู้ป่วย เพื่อประโยชน์ในการรักษา รวมทั้งข้อมูลเพื่อการดูแลยามฉุกเฉิน เช่นคลิปวิดีโอสั้นในการปั๊มหัวใจ เพื่อกู้ฟื้นคืนชีพ คลิปสอนการพ่นยาขยายหลอดลมแบบฉุกเฉิน รวมถึงข้อมูลทั่วไปสำหรับการดูแลรักษาโรคถุงลมโป่งพองต่างๆ
อีกทั้งยังมีช่องทางในการจัดทำพินัยกรรมชีวิต (Living will) หรือเจตนารมณ์ในการรักษาเมื่อผู้ป่วยหมดสติ โดยชมรมคาดหวังว่ากำไลวิเศษจะเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนให้ผู้ป่วยและครอบครัวสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพดียิ่งขึ้น
นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทแกล็ก โซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด หรือ gsk และกรรมการภาคประชาชน สังคมชมรมลมวิเศษ กล่าวว่า การดูแลผู้ป่วย “โรคถุงลมโป่งพอง” ต้องอาศัยความร่วมมือในทุกมิติ ได้แก่ แพทย์ ผู้ป่วย และญาติๆ ผู้ดูแลผู้ป่วย โดยจะพัฒนาสื่อความรู้ในการดูแลผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองด้วยตนเองที่บ้าน ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ www.magicbreath.org โมบายแอปพลิเคชันในชื่อ Magic Breath โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook เผยแพร่ VDO Clip ลงใน Youtube
รวมถึงการสร้างนวัตกรรมในการดูแลตนเองให้ง่ายขึ้นด้วยการใช้ QR Code Wristband หรือเรียกชื่อว่า “กำไลวิเศษ” ซึ่งจะเป็นสายรัดข้อมืออัจฉริยะ ซึ่งทางโครงการได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตัวผู้ป่วย และช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีขึ้น ขอเชิญชวนผู้สนใจติดตามข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ของชมรมได้ที่ WWW.MAGICBREATH.ORG หรือชมรมลมวิเศษ โทรศัพท์ 0-2318-8170