อุบลราชธานี - สภาพอากาศฟ้าปิด มีฝนตกโปรยปราย ทัศนวิสัยการขับขี่แย่ ทำให้รถแท็กซี่ลื่นไถลตกถนน ก่อนมีรถตู้วิ่งมาชนซ้ำ เกิดเป็นอุบัติเหตุซ้ำซ้อน 3 คัน แต่โชคดีไม่มีคนเจ็บหรือเสียชีวิต
เมื่อเวลา 08.30 น. วันนี้ (27 พ.ย.) ร.ต.ท.วิชญ์ธนิน ทองปัญญา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีรถแท็กซี่รับผู้โดยสารมุ่งหน้าไปตามถนนชยางกูรขาออก ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลตกลงไปข้างทาง บริเวณหัวโค้งบ้านห้วยคุ้ม ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี ให้ออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย และหลังจากนั้นอีกไม่นานได้รับแจ้งเพิ่มเติมว่าได้เกิดอุบัติเหตุรถตู้เฉี่ยวชนรถแท็กซี่ที่มาจอดช่วยเหลือเพื่อนรถแท็กซี่คันแรกที่ตกลงไปข้างทาง ทำให้การจราจรติดขัดอย่างมาก
หลังไปถึงที่เกิดเหตุพบรถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ทข 429 อุบลราชธานี สีเหลืองน้ำเงิน ของบริษัทแท็กซี่วีไอพี 2014 จำกัด มีรอยถูกเฉี่ยวชนจากด้านข้างฝั่งประตูคนขับ ทำให้หัวรถทิ่มตะแคงล้อหลังลอยอยู่บนถนน ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถตู้โตโยต้าสีขาว ทะเบียน ฮน 1965 กรุงเทพฯ มีรอยชนบริเวณด้านหน้าตัวรถ และตัวรถยังเสียหลักหัวทิ่มลงไปข้างทางเช่นกัน
ส่วนที่บริเวณไหล่ทางที่มีความสูงประมาณเกือบ 2 เมตร พบรถแท็กซี่บริษัทเดียวกัน ทะเบียน ทข 422 อุบลราชธานี จอดสงบนิ่งอยู่ข้างป่าไหล่ทาง ซึ่งเป็นรถคันแรกที่รับผู้โดยสารจะนำไปส่งยังจุดหมาย แต่ประสบอุบัติเหตุถนนลื่นรถไถลตกลงไปในไหล่ทาง โดยรถทั้ง 3 คันไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต
จากการสอบถามสอบนายชัยรัตน์ ยืนทน อายุ 57 ปี คนขับรถแท็กซี่ทะเบียน ทข 422 อุบลราชธานี ซึ่งเป็นรถประสบอุบัติเหตุคันแรกเล่าว่า ได้รับผู้โดยสารมุ่งหน้าไปส่งที่บ้านหนองแต้ ต.ขี้เหล็ก อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ระหว่างขับรถมาตามถนนชยางกูรขาออก ซึ่งมีหมอกบางและมีฝนตกโปรยปรายลงมา
เมื่อรถที่แล่นลดความเร็วประมาณ 50-60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถึงหัวโค้งเขตบ้านห้วยคุ้ม ต.ขามใหญ่ ซึ่งเป็นโค้งกึ่งหักศอก รถแท็กซี่เกิดอาการเสียหลักหมุนและลื่นไถลตกลงไปข้างทางที่มีความสูงประมาณ 2 เมตร โชคดีที่นายชัยรัตน์และผู้โดยสารที่นั่งมาไม่เป็นอะไร
หลังจากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งผู้จัดการบริษัทรถแท็กซี่ให้ออกมาดูและช่วยเหลือ โดยจอดรถแท็กซี่คันที่ถูกชนจากด้านข้างไว้บริเวณไหล่ทางใกล้จุดเกิดเหตุ จู่ๆ มีรถตู้ขับมุ่งหน้าออกจากตัวเมืองมาตามถนน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุเดียวกันก็เสียหลักพุ่งเข้าชนด้านข้างรถแท็กซี่ ก่อนรถทั้ง 2 คันเสียหลักหัวทิ่มลงไปในไหล่ทางเช่นกัน
เบื้องต้นคู่กรณีทั้งสองฝ่ายสามารถตกลงกันได้เพราะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงรีบแยกรถทั้งหมดออกจากถนน เพราะทำให้การจราจรบนถนนชยางกูร ซึ่งเป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร ติดขัดยาวเป็นกิโลเมตรด้วย