นครสวรรค์ - ปธ.ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำหมอสูติฯ พร้อมทีมงานตามคืบหน้าคดีหมอข่มขืนคนไข้ขณะตรวจภายใน พร้อมบุกตรวจถึงคลินิกกลางเมืองปากน้ำโพ เบื้องต้นไม่เชื่อมีคนถูกล่วงละเมิดร่วมครึ่งร้อย ขณะที่หมอจักรพงษ์ยันคนไข้เข้าใจผิด
วันนี้ (20 พ.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, แพทย์หญิง ของขวัญ ฟูจินิรันดร์ แพทย์เวชกรรม “ของขวัญคลินิก" ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสูตินรี ได้เดินทางเข้าหารือ พ.ต.อ.ฐานุพงศ์ แสงซื่อ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีนายแพทย์ จักรพงษ์ ลีลาพร หมอสูติฯ คนดังเมืองปากน้ำโพ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีข่มขืนคนไข้ภายในคลินิก เขตเทศบาลนครนครสวรรค์
นายอัจฉริยะเปิดเผยก่อนเข้าห้องพบ ผกก.เมืองนครสวรรค์ ว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ประสานกับ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และนายแพทย์ จักรพงษ์แล้วว่าตนและทีมงานจะเดินทางมาพบที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ และจะเดินทางไปตรวจที่คลินิกเกิดเหตุ เนื่องจากตนไม่เชื่อว่านายแพทย์ จักรพงษ์จะกระทำผิดตามคำร้องของผู้เสียหาย เนื่องจากผู้เสียหายมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ 30-50 คน ไม่น่าจะเป็นไปได้ ซึ่งหากดูที่เกิดเหตุจะทราบชัดเจนว่าเป็นไปตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่
“เรื่องนี้ต้องมองสองมุมว่าเป็นไปได้หรือไม่ ต้องดูพยานแวดล้อมประกอบด้วย ซึ่งการเดินทางมาวันนี้มาดูสองส่วน คือ ผู้เสียหายยินยอม สมยอมหรือไม่ หรือว่าสภาพแวดล้อมสามารถทำได้หรือไม่อย่างไร หากล่วงละเมิด 50 คน โรงพักเมืองนครสวรรค์จะอยู่ได้หรือไม่”
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเดินทางมาพบตำรวจครั้งนี้มาในฐานะอะไร ได้รับการแต่งตั้งเป็นทนายฝ่ายโจทก์ หรือจำเลย นายอัจฉริยะตอบว่า ตนมาในฐานะพลเมืองดี
ด้านแพทย์หญิง ของขวัญเปิดเผยว่า การเดินทางมาครั้งนี้เพื่อดูว่าลักษณะท่าทาง สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หรือไม่ เป็นการกระทำล่วงละเมิดหรือไม่ หากดูที่เกิดเหตุก็สามารถบอกได้ ชั้นนี้หมอในฐานะผู้เชี่ยวชาญตรวจภายในมองว่าไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีการละเมิดกัน 40-50 คน ประเด็น 50 คนมีจริงหรือเปล่า เพราะหากมีการล่วงละเมิด 50 คน สภ.นครสวรรค์ก็ต้องเรียกมาสอบกันแล้ว
จากนั้นนายอัจฉริยะ พร้อมทีมงานได้เดินทางไปยังคลินิกนายแพทย์ จักรพงษ์ โดยก่อนที่นายอัจฉริยะจะเดินทางไปถึง นายแพทย์ จักรพงษ์ก็ได้เปิดคลินิกรอ และพาคณะสื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพภายในคลินิกทุกมุม
นายแพทย์ จักรพงษ์เปิดเผยว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจตนมาโดยตลอด หลังตกเป็นข่าว ไม่ว่าจะเดินทางไปทำงานหรือไปไหนมาไหนก็มีคนมาให้กำลังใจ ก็ต้องขอขอบคุณ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการเข้าใจผิดของคนไข้เรื่องการตรวจรักษา คนไข้ไม่เข้าใจการรักษา หมอตรวจจะมีความหนักเบาไม่เท่ากัน การตรวจหน้าอก ตรวจช่องคลอดอาจจะหนักเบาไม่เท่ากันแล้วคนไข้ก็เข้าใจผิด
“ทุกวันนี้ผมร้องไห้ในใจเกือบทุกวัน แต่ก็บอกใครๆ ไปหมดแล้ว ครอบครัวผมก็เข้าใจ แต่ทุกคนเสียหายที่ตกเป็นข่าว แต่ทำใจได้ เพราะหมอไม่ได้ละเมิด จะขอพูดที่ชั้นศาลเท่านั้น”
และเมื่อนายอัจฉริยะเดินทางมาถึงคลินิก นายแพทย์ จักรพงษ์ก็ปิดห้องหารือ ซึ่งมีรายงานว่าประเด็นที่พูดคุยมุ่งเน้นไปที่เรื่องเงินจำนวน 3 แสนบาทที่หมอจักรพงษ์โอนไปให้ผู้เสียหาย แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ในประเด็นดังกล่าว
ขณะที่ทีมงานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมก็ได้จำลองสถานการณ์การตรวจ โดยนำผู้สื่อข่าวนอนบนขาหยั่งให้หมอตรวจ ซึ่งหมอก็ตรวจในท่านั่ง ท่ายืน นอกจากนี้ยังมีการถกถึงกรณีคนไข้ผู้เสียหายเดินทางไปตรวจกับสาวทอมที่นั่งรอด้านนอกแต่ทำไมไม่ร้องขอความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตาม นายอัจฉริยะยอมรับว่าห้องตรวจคนไข้มีลักษณะที่ล่อแหลมอยู่พอสมควร แต่หากเกิดเหตุขึ้นคนไข้ก็สามารถร้องเอะอะโวยวายจนคนนอกห้องตรวจได้ยินแน่นอน ขณะที่ผู้เสียหายก็ต้องมีการตรวจพิสูจน์รอยช้ำบริเวณขาทั้งซ้ายขวาด้วยว่าเกิดจากอะไรแน่
