xs
xsm
sm
md
lg

เกษตรกรราชบุรีรวมกลุ่มปลูกองุ่นตามรอยศาสตร์พระราชา สร้างรายได้จุนเจือครอบครัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ราชบุรี - เกษตรกรชาวราชบุรี รวมกลุ่มปลูกองุ่นไร้เมล็ดสำเร็จ ใช้พื้นที่เล็กน้อยที่มีอยู่ใกล้บ้าน ได้รับการสนับสนุนจากสถาบันพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวงให้คำแนะนำ ดูแลง่าย ราคาดี ชวนนักท่องเที่ยวชิมสดๆ

วันนี้ (20 พ.ย.) ที่ ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ติดชายแดนไทย-พม่า ภูมิประเทศเป็นหุบเขา มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ ช่วงหน้าหนาวอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น เกษตรกรส่วนใหญ่ปลูกสับปะรดที่ขึ้นชื่อ คือ สับปะรดหวานบ้านคา

ด้วยสภาพอากาศเป็นผลดีทำให้เกษตรกรในพื้นที่มีแนวคิดหันมารวมกลุ่มกันทดลองปลูกองุ่นพันธุ์ไร้เมล็ด สายพันธุ์บิวตี้ ซีดเลส (BEAUTY SEEDLESS) ทดลองปลูกเป็นครั้งแรก ข้อดีคือ ใช้เงินลงทุนไม่มาก มีโรครบกวนน้อย ดูแลง่าย แถมราคาดีเป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภค กำลังจะเตรียมเก็บผลผลิตขายได้ในเดือนธันวาคมที่กำลังจะถึงนี้

อย่างที่เห็นผลแล้วของ นายสนิท แจ้งจัด อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/2 หมู่ 6 บ้านห้วยสวนพลู ต.บ้านบึง อ.บ้านคา หนึ่งในสมาชิกที่ได้ใช้พื้นที่อยู่เพียงประมาณ 30 ตารางเมตร ปลูกองุ่นดำไร้เมล็ดเพียง 10 ตัน จนลูกดกออกเป็นพวงห้อยระย้าดูสวยงาม

นายจำนอง บุญเลิศฟ้า ประธานกลุ่มปลูกพืชผักผลไม้ปลอดภัย เปิดเผยว่า เคยไปศึกษาดูงานโครงการหลวงทางภาคเหนือมาจึงมีแนวคิดรวบรวมเพื่อนเกษตรกรในพื้นที่ประมาณ 17 ราย มาเป็นสมาชิก สร้างโรงเรือนกว่า 20 โรง คิดว่าองุ่นปัจจุบันค่อนข้างเหลือน้อยแล้ว ส่วนใหญ่อยู่แถวต่างจังหวัด แต่พื้นที่ อ.บ้านคา ยังเหลือพื้นที่ว่างอยู่และมีความเหมาะสมที่จะปลูกองุ่นสายพันธุ์นี้ได้

อีกทั้งได้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่สถาบันพัฒนาพื้นที่สูงของโครงการหลวงมาให้องค์ความรู้ตามศาสตร์ของพระราชา และคอยแนะนำวิธีการปลูกตลอดจนการดูแลรักษาต้นองุ่น จนประสบความสำเร็จปลูกองุ่นไร้เมล็ดมีผลผลิตออกเต็มต้น อนาคตมีแนวคิดอยากส่งเสริมให้พื้นที่อำเภอบ้านคา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

เนื่องจากมีทัศนียภาพทิวทัศน์ท่ามกลางภูเขาป่าไม้ที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ได้หลายแห่ง มีผัก ผลไม้ปลอดสารที่เป็นของดีมากมาย ซึ่งหากมีเกษตรกรปลูกองุ่นทั่วพื้นที่บ้านคา ก็จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ สามารถกระจายรายได้สู่ชุมชนในท้องถิ่นขึ้น เพราะไม่ต้องเดินทางไปไกลถึงภาคเหนือ แค่มาราชบุรีใช้ระยะเวลาเดินทางจากตัวเมืองราชบุรีเพียงประมาณ 100 กิโลเมตรเศษ ก็สามารถมาชิมองุ่นไร้เมล็ดที่มีรสชาติหวานกรอบ ปลอดภัยสดๆ จากสวนเกษตรกรโดยตรง

นายสนิท แจ้งจัด เจ้าของแปลงองุ่น เปิดเผยว่า ครั้งแรกได้ไปอบรมกับประธานกลุ่มปลูกพืชผักผลไม้ปลอดภัยบ้านคา ทางเจ้าหน้าที่โครงการหลวงฯ แนะนำให้ปลูกพืชผักและองุ่น พร้อมกับบอกวิธีการสร้างโรงเรือนที่มีขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 30 เมตร ปลูกได้ 10 ต้น หลังคาใช้พลาสติกสีขาวประมาณ 3.80 เมตร ใช้เสาปูนไม่ใหญ่มากนัก

สำหรับโรงเรือนใช้ทุนประมาณ 12,000 บาท ค่ากิ่งพันธุ์อีก 10 กิ่ง เป็นเงิน 3,000 บาท รวมเป็นเงิน 15,000 บาท ส่วนการปลูกให้ขุดหลุมกว้าง 1 เมตร ยาว 1 เมตร ลึก 30 เซนติเมตร ปลูกห่างกันระหว่างต้นกว้าง 1.5 เมตร ยาว 6 เมตร โรงเรือนยาว 30 เมตร ปลูกได้ 10 ต้นต่อ 1 โรงเรือน และใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ผสมใบก้ามปูแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันทิ้งไว้ระยะหนึ่ง

จากนั้นนำต้นพันธุ์ปลูกแล้วจะรดน้ำวันละ 1 ครั้ง ใช้ฝักบัวเดินรดไปก่อนช่วงแรก พอเริ่มเจริญเติบโตจึงใช้ระบบน้ำพุ่งที่ไม่แรงมาก ที่สำคัญรดน้ำโดยที่ไม่ให้โดนผลองุ่น เพราะจะทำให้ผลองุ่นเสียได้

ขณะที่ลักษณะของช่อจะใหญ่ ติดผลง่าย รสชาติอร่อย หวาน กรอบ มีสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์ วิตามินซี เหล็ก แคลเซียม ช่วยบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ ส่วนการใช้ยาในการดูแลรักษาค่อนข้างน้อยมาก จะมีแค่ช่วงปลูกใหม่ๆ จะใช้สารฉีดพ่นไล่แมลงเล็กน้อย หากใช้ยาเข้มข้นเกินไปจะทำให้เกิดใบไหม้เสียหายได้

ส่วนข้อดีสำหรับการใช้พลาสติกคลุมหลังคามีประโยชน์ช่วยลดต้นทุนการซื้อปุ๋ย และใช้ยากันเชื้อราลงไปประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ เพราะช่วงที่เกิดฝนตกลงมาและมีน้ำค้างจะมาโดนใบทำให้เกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย ข้อดีของต้นองุ่นไร้เมล็ดที่ปลูกจะมีอายุยาวนานปลูกครั้งเดียวอยู่ได้ประมาณ 20 ปีขึ้นไป ซึ่งแปลงที่เพิ่งทดลองปลูกเป็นครั้งแรกได้ประมาณ 9 เดือนแล้ว และจะเริ่มเก็บเกี่ยวประมาณเดือนธันวาคมนี้

คาดว่าน่าจะได้ผลผลิตปีแรกประมาณ 200 กิโลกรัม จะขายสดๆ จากสวนกิโลกรัมละ 200 บาท หลังจากที่เคยไปเที่ยวดูการปลูกองุ่นสายพันธุ์นี้มาแล้วที่จังหวัดเชียงใหม่ และยังเคยซื้อรับประทาน กิโลกรัมละ 200-250 บาท ถือว่าเป็นผลไม้เศรษฐกิจตัวใหม่ของพื้นที่ราชบุรีที่น่าสนใจที่ช่วยทำเงินสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกร

สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าไปท่องเที่ยวได้ที่สวนของเกษตรกรบางแห่งอยู่ริมถนนท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา แถมยังได้แชะถ่ายภาพกับพวงองุ่นละลานตาเป็นที่ระลึก ซึ่งอนาคตอันใกล้นี้จะได้มีการพัฒนาเส้นทาง พร้อมทั้งป้ายประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวชมสวนองุ่นไร้เมล็ดของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งใหม่ด้วย หรือสนใจอยากสอบถามเส้นทางเข้าชิม ชม แชะ สวนองุ่นไร้เมล็ด ได้ที่ นายจำนอง บุญเลิศฟ้า ประธานกลุ่มปลูกพืชผักผลไม้ปลอดภัย 08-2242-9949






กำลังโหลดความคิดเห็น