กาฬสินธุ์ - รวบเยาวชนอายุ 17 ปี ก่อเหตุบุกเดี่ยวใช้ปืนปลอมจี้พนักงานร้านสะดวกซื้อเซเว่นฯ สาขาหน้าวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ แต่ไม่ได้เงิน สารภาพตกงาน ทั้งเมียท้อง 4 เดือน ต้องการหาเงินใช้จ่ายในครอบครัว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (19 พ.ย.) ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.สุเทพ ภูกันหา รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.วิเชียร ศรีจันทร์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.ปรัชญา ต้นกันยา สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงผลการจับกุมเยาวชนชายอายุ 17 ปี ชาว ต.หลุบ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ก่อเหตุใช้อาวุธปืนปลอมจี้ชิงทรัพย์พนักงานเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาหน้าวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ ถนนสนามบิน ต.กาฬสินธุ์ พร้อมของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ ประกอบด้วย เสื้อกันหนาวสีแดง, เสื้อยืดสีเทา, กางเกงแสลกสีเทา, อาวุธปืนปลอมสีดำ, หมวกกันน็อกสีขาว, ร้องเท้าแตะสีน้ำตาล และจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กสง 77 กาฬสินธุ์
พ.ต.อ.รัชพล เสริมศรัณย์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า คนร้ายเป็นชาย 1 คนได้ก่อเหตุเมื่อเวลา 04.36 ของวันที่ 24 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา สวมเสื้อกันหนาวแบบมีหมวกคลุมศีรษะ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าขับขี่จักรยานยนต์มาจอดที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาหน้าวิทยาลัยนาฏศิลปกาฬสินธุ์ แล้วเข้าไปร้านสะดวกซื้อ ใช้อาวุธปืนของกลางที่พกไว้ที่เอวชักออกมาเล็งขู่บังคับให้ น.ส.นันธิกรานต์ การเลิศ พนักงานร้านที่อยู่ประจำหน้าเคาน์เตอร์ส่งทรัพย์สินที่เก็บไว้ในเคาน์เตอร์ให้ แต่พนักงานขัดขืนและพยายามวิ่งหนี เมื่อคนร้ายเห็นว่าไม่สามารถเอาทรัพย์สินไปได้จึงตัดสินใจวิ่งออกไปขับขี่จักรยานยนต์หลบหนีไป
โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สืบทราบว่าคนร้ายเป็นเยาวชนชายไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร และมีภรรยากำลังตั้งท้อง 4 เดือน มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดซึ่งเป็นราษฎรใน ต.หลุบ อ.เมืองฯ ได้หลบหนีไปอยู่ใน ต.หนองอิเฒ่า อ.ยางตลาด
เจ้าหน้าที่จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าทำการจับกุมและสามารถตรวจยึดจักรยานยนต์ อาวุธปืน และเสื้อผ้าที่ใช้ในการก่อเหตุ
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพโดยรับว่าสาเหตุที่กระทำผิดครั้งนี้เนื่องจากตกงาน ไม่มีรายได้ ประกอบกับภรรยากำลังตั้งท้องได้ 4 เดือน จึงต้องการหาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัว เจ้าหน้าที่จึงทำการจับกุมพร้อมยึดของกลางส่งพนักงานสอบสวนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
