กาญจนบุรี - ชาวสระลงเรือไม่กลัวแล้งอีกต่อไป หลังจากโครงการชลประทานเมืองกาญจนบุรี-พนมทวน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ) ส่งน้ำให้เกษตรกรได้แล้ว
นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีตำบลสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2554 การที่ตนได้ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผ่านรองราชเลขาธิการฯ เพื่อให้ช่วยเหลือในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ ขอให้มีโครงการก่อสร้างโรงสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้า
ต่อมา วันที่ 7 ธันวาคมของปีเดียวกัน คุณสมบูรณ์ วงศ์กาด คุณจิตพล สิทธิประณีต และคุณณัฏฐชัย นริณกรณัฐ ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วยตัวแทนจากกรมชลประทาน ได้เดินทางประชุม และตรวจสอบพื้นที่
โดยคณะกรรมการ กปร.มีมติในที่ประชุมว่า ให้ผ่านโครงการดังกล่าว และถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพิจารณารับโครงการนี้ไว้เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ ซึ่งต่อเนื่องจากคลองส่งน้ำคู่ขนาน ท่าล้อ-อู่ทอง มีทั้งหมด 3 โครงการ
โดยโครงการชลประทานเมืองกาญจนบุรี-พนมทวน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ) ดำเนินการโดยสำนักงานชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้รับการประสานงานและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายช่างประศาสน์ สุขอินทร์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่ามะกา พร้อมคณะ และทีมงาน
สำหรับโครงการที่ 1 นั้นเริ่มดำเนินการสร้างเมื่อปี พ.ศ.2557 ซึ่งวางท่อส่งน้ำตั้งแต่หลังสวนสมุนไพรหมอเณร เคลื่อนผ่านหมู่ที่ 8 หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 13 หมู่ที่ 7 ผ่านสี่แยกไผ่สี เลี้ยวขวาตัดข้ามถนนลาดยางหน้าโรงเรียนห้วยกระเจาพิทยาคม
โครงการที่ 2 เป็นระบบท่อส่งน้ำ ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 10 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 14 หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 โดยจุดสิ้นสุดแนวท่อจะอยู่ที่วัดพรหมนิมิต โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2559
และโครงการที่ 3 เป็นระบบส่งน้ำเช่นกัน ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ประกอบด้วย หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 11 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 16 และพี่น้องตำบลจระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ที่อยู่แนวเขตติดต่อกับอำเภอห้วยกระเจา บริเวณมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีตำบลสระลงเรือ เปิดเผยต่อว่า บัดนี้โครงการที่ 1 และ 2 ได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ทยอยรับน้ำสำหรับใช้ในพื้นที่การเกษตรจากโรงสูบน้ำได้แล้ว จึงสร้างความดีใจให้แก่พี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนต่างปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่พระราชทานโครงการนี้ให้แก่ตำบลสระลงเรือ ซึ่งชาวบ้านตำบลสระลงเรือ จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้
และในวันนี้ (16 พ.ย.) ว่าที่ ร.ต.ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายอำเภอห้วยกระเจา ได้ลงพื้นที่เพื่อกล่าวแสดงความยินดี และรู้สึกปลื้มปีติแทนชาวตำบลสระลงเรือด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการก่อสร้างโครงการที่ 3 นั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากยังไม่มีงบประมาณเข้ามา ซึ่งจะต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือสำนักงาน กปร.อนุมัติงบประมาณมาให้เสียก่อนจึงจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้
กาญจนบุรี - ชาวสระลงเรือไม่กลัวแล้งอีกต่อไป หลังจากโครงการชลประทานเมืองกาญจนบุรี-พนมทวน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ) ส่งน้ำให้เกษตรกรได้แล้ว
นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีตำบลสระลงเรือ อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 24 ม.ค.2554 การที่ตนได้ยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ผ่านรองราชเลขาธิการฯ เพื่อให้ช่วยเหลือในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่ ขอให้มีโครงการก่อสร้างโรงสูบน้ำด้วยระบบไฟฟ้า
ต่อมา วันที่ 7 ธันวาคมของปีเดียวกัน คุณสมบูรณ์ วงศ์กาด คุณจิตพล สิทธิประณีต และคุณณัฏฐชัย นริณกรณัฐ ซึ่งเป็นคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วยตัวแทนจากกรมชลประทาน ได้เดินทางประชุม และตรวจสอบพื้นที่
โดยคณะกรรมการ กปร.มีมติในที่ประชุมว่า ให้ผ่านโครงการดังกล่าว และถวายให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงพิจารณารับโครงการนี้ไว้เป็นโครงการตามแนวพระราชดำริ ซึ่งต่อเนื่องจากคลองส่งน้ำคู่ขนาน ท่าล้อ-อู่ทอง มีทั้งหมด 3 โครงการ
โดยโครงการชลประทานเมืองกาญจนบุรี-พนมทวน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้าสระลงเรือ) ดำเนินการโดยสำนักงานชลประทานที่ 13 กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้รับการประสานงานและความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายช่างประศาสน์ สุขอินทร์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาท่ามะกา พร้อมคณะ และทีมงาน
สำหรับโครงการที่ 1 นั้นเริ่มดำเนินการสร้างเมื่อปี พ.ศ.2557 ซึ่งวางท่อส่งน้ำตั้งแต่หลังสวนสมุนไพรหมอเณร เคลื่อนผ่านหมู่ที่ 8 หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 13 หมู่ที่ 7 ผ่านสี่แยกไผ่สี เลี้ยวขวาตัดข้ามถนนลาดยางหน้าโรงเรียนห้วยกระเจาพิทยาคม
โครงการที่ 2 เป็นระบบท่อส่งน้ำ ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับครอบคลุมพื้นที่หมู่ที่ 10 หมู่ที่ 8 หมู่ที่ 14 หมู่ที่ 9 หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 โดยจุดสิ้นสุดแนวท่อจะอยู่ที่วัดพรหมนิมิต โดยเริ่มดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2559
และโครงการที่ 3 เป็นระบบส่งน้ำเช่นกัน ประชาชนจะได้รับประโยชน์ ประกอบด้วย หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 11 หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 16 และพี่น้องตำบลจระเข้สามพัน อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี ที่อยู่แนวเขตติดต่อกับอำเภอห้วยกระเจา บริเวณมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น
นายอนุชา สุขเชิงชาย นายกเทศมนตรีตำบลสระลงเรือ เปิดเผยต่อว่า บัดนี้โครงการที่ 1 และ 2 ได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ชาวบ้านผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้ทยอยรับน้ำสำหรับใช้ในพื้นที่การเกษตรจากโรงสูบน้ำได้แล้ว จึงสร้างความดีใจให้แก่พี่น้องประชาชนเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนต่างปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่พระราชทานโครงการนี้ให้แก่ตำบลสระลงเรือ ซึ่งชาวบ้านตำบลสระลงเรือ จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดมิได้
และในวันนี้ (16 พ.ย.) ว่าที่ ร.ต.ศุภมงคล บูชาถ่ายเทศ นายอำเภอห้วยกระเจา ได้ลงพื้นที่เพื่อกล่าวแสดงความยินดี และรู้สึกปลื้มปีติแทนชาวตำบลสระลงเรือด้วย
แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการก่อสร้างโครงการที่ 3 นั้น ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากยังไม่มีงบประมาณเข้ามา ซึ่งจะต้องรอให้สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือสำนักงาน กปร.อนุมัติงบประมาณมาให้เสียก่อนจึงจะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้
