เชียงราย - รองอธิบดีกรมอุทยานฯ นำคณะตัดริบบิ้นเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม “สระมรกตขุนน้ำนางนอน-ถ้ำพระ” อย่างเป็นอย่างการแล้ว ส่วน “ถ้ำหลวง” ต้องรอแล้ง-น้ำแห้งถึงเข้าสำรวจได้ กำชับหัวหน้าวนอุทยานฯ หารือท้องถิ่น สกัดเหลือบรีดค่าจอดรถ
วันนี้ (15 พ.ย.) นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เป็นประธานเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมขุนน้ำนางนอน และตลาดประชารัฐขุนน้ำนางนอน วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน บ้านจ้องวัด หมู่ 9 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างเป็นทางการ โดยมีการประกอบพิธีสงฆ์ เปิดป้ายใหม่ของวนอุทยานฯ ก่อนเปิดให้ประชาชน-ท่องเที่ยวได้เข้าชมสระมรกตขุนน้ำนางนอน ก่อนทำพิธีเปิดตลาดประชารัฐ และรถขนส่งนักท่องเที่ยวโดยชุมชน ที่จะให้บริการนำนักท่องเที่ยวจากหมู่บ้าน-ขุนน้ำนางนอน และถ้ำหลวง โดยเก็บค่าบริการคนละ 30 บาท
จากนั้นนายจงคล้าย และคณะ ได้เดินทางไปยังถ้ำหลวง ซึ่งขณะนี้เปิดให้เข้าชมได้เฉพาะบริเวณปากถ้ำ และพื้นที่โดยรอบ อย่างไรก็ตาม โอกาสนี้ทางวนอุทยานฯ ได้เปิดให้นักท่องเที่ยว เข้าชม “ถ้ำพระ” ที่อยู่ใกล้กับถ้ำหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่ให้ความรู้เรื่องการเข้าถ้ำอย่างปลอดภัยด้วย
นายจงคล้ายกล่าวว่า ทางกรมอุทยานฯ ได้พยายามอำนวยความสะดวกให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่อยากไปชมถ้ำหลวงอย่างเต็มที่ ซึ่งตลอด 4 เดือนนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่ถ้ำหลวง ก็มีผู้คนเดินทางมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก อาจจะมากกว่าอุทยานแห่งชาติหลายแห่งในประเทศไทยด้วย และเชื่อว่าในอนาคตจะมีคนมาเที่ยวมากกว่านี้อีกเป็นปีละหลายแสนคน
ดังนั้นจึงต้องหาทางกระจายนักท่องเที่ยวไปยังจุดอื่น ๆ เช่น การพัฒนาขุนน้ำนางนอนขึ้นมารองรับ ซึ่งตอนนี้ยังเป็นเพียงการพัฒนาเฉพาะหน้า ในอนาคตคงจะดำเนินการเพิ่มเติมอีก เช่น ศึกษาถ้ำทรายทองที่อยู่บริเวณขุนน้ำนางนอน จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติและพันธุ์ไม้เพื่อให้นักท่องเที่ยวเดินทางตามเส้นทาง สรรหาขุนน้ำที่มีระดับน้ำตื้นพอให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปเล่นน้ำได้ เป็นต้น
ส่วนถ้ำหลวงยังคงปิดปากถ้ำเอาไว้อยู่ ต้องรอให้ถึงฤดูแล้ง และน้ำแห้งแล้ว ราวเดือน ม.ค.-ก.พ. 2562 จึงจะเข้าไปสำรวจ จัดทำแผนที่ที่ชัดเจน ศึกษาข้อมูลเรื่องน้ำ และอื่น ๆ เพื่อจะได้พิจารณาเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม แต่ก็ต้องดูด้วยว่าจะให้เข้าไปได้ลึกมากน้อยแค่ไหน เพื่อความปลอดภัย แต่สำหรับภายนอกถ้ำหลวงก็มีการพัฒนาต่อเนื่อง ตอนนี้อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย ก็นำศิลปินสร้างศาลาอนุสรณ์คืบหน้าแล้ว 60% และในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ ก็จะมีการนำรูปปั้นนาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม ผู้เสียสละชีวิตในเหตุการณ์ถ้ำหลวงมาตั้งไว้หน้าถ้ำ พร้อมสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ขณะที่ทางจังหวัดฯ ก็รับจะพัฒนาเรื่องถนนหนทางเพื่อความสะดวกแล้ว เป็นต้น
“ถ้ำหลวงต้องมีการบริหารจัดการทำนองเดียวกับขุนน้ำนางนอน คือ กันพื้นที่จอดรถไว้ด้านนอก พร้อมจัดตลาดประชารัฐ นำสินค้าชาวบ้านมาวางจำหน่ายรองรับนักท่องเที่ยว โดยให้ชุมชนได้ร่วมบริหารจัดการ ผลประโยชน์ก็จะเกิดกับท้องถิ่น โดยทางวนอุทยานฯ จะทำหน้าที่เป็นเพียงพี่เลี้ยงเท่านั้น”
อย่างไรก็ตาม ช่วงก่อนเปิดขุนน้ำนางนอน มีกระแสข่าวจากนักท่องเที่ยวบางส่วนว่า ต้องเสียเงินค่าฝากรถบริเวณปากทางเข้าขุนน้ำนางนอน คันละ 30 บาท และค่ารถบริการอีก 30 บาท ซึ่งสูงเกินไปนั้น นายจงคล้าย ระบุว่าได้มอบหมายให้ หัวหน้าวนอุทยานฯ ไปหารือกับผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้มีคนเอาเปรียบนักท่องเที่ยว และกรณีค่าที่จอดรถก็ยังไม่ควรเก็บ ให้เก็บเฉพาะค่ารถรับส่งโดยสมัครใจเท่านั้น