บุรีรัมย์ - ตำรวจบุรีรัมย์สนธิกำลังหลายฝ่ายไล่ล่าสกัดจับแก๊งค้ายาเครือข่ายชาวลาว กระจายส่งขายทั่วภาคอีสาน ได้ผู้ต้องหา 4 คน ของกลางยาบ้า 60,000 เม็ด
วันนี้ (14 พ.ย.) พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พ.ต.อ.วีรพล เจริญศิริ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญ เครือข่ายแก๊งค้ายาเสพติดประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้บูรณาการร่วมกับทหาร ฝ่ายปกครอง ตชด. ระดมกำลังไล่ล่าสกัดจับแก๊งดังกล่าวได้ในท้องที่ อ.สตึก ขณะขับหลบหนี
สามารถรวบผู้ต้องหาได้ 4 ราย คือ นายยุทธศักดิ์ สยุมพร อายุ 24 ปี ชาว อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี นายณัฐวุฒิ เหล่าแค อายุ 22 ปี ชาว อ.เมือง ศรีสะเกษ นายภักดี ปานประสงค์ อายุ 24 ปี ชาว อ.เมืองศรีสะเกษ และนายทา ไชยวงสา อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นชาวลาว พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 60,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง กระดาษเขียนบันทึกจุดวางยาบ้า 2 แผ่น และได้ยึดรถเก๋งของกลางที่ใช้ในการส่งยาอีก 2 คัน
จากการสอบถาม นายยุทธศักดิ์ หนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้มีชาวลาวว่าจ้างให้ตนนำยาบ้ามาส่งให้แก่ลูกค้าคนไทย โดยจะได้ค่าจ้างครั้งนี้ 80,000 บาท ตนจึงได้ไปชักชวนเพื่อนอีก 2 คน ให้มาช่วย โดยจะแบ่งค่าจ้างให้คนละ 15,000 บาท จะจ่ายหลังจากทำงานเสร็จ โดยไปเอายาบ้าที่อยู่ในถุงพลาสติกสีดำ 1 ถุงใหญ่ มาจากพื้นที่ อ.เหล่าเสือโก้ก จ.อุบลราชธานี
จากนั้นทยอยไปวางให้แก่ลูกค้าตามจุดนัดหมาย เรื่อยมาตั้งแต่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ เมื่อกระจายยาตามจุดเสร็จแล้ว พบว่าได้มีรถยนต์ขับไล่ติดตาม ตนจึงขับหลบหนี แล้วถูกตำรวจ สภ.ชุมพลบุรี ตั้งด่านสกัดไว้จึงตัดสินใจขับรถพุ่งชนด่านหลบหนี แต่สุดท้ายไม่รอด ถูกตำรวจสกัดจับได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ กล่าวว่า ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.ปส.ภ.จว.บุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ชุดพิทักษ์บุรีรัมย์ทุกนาย ที่ได้สนธิกำลังบูรณาการร่วมกัน จนสามารถสกัดจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดในครั้งนี้ได้ โดยได้มีการสืบสวน และทำการขยายผลจากการจับกุมผู้เสพและผู้ค้าในพื้นที่ กระทั่งสามารถจับกุมเครือข่ายได้ดังกล่าว ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกนายได้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องหา
นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ตำรวจในสังกัด ตำรวจภูธรภาค 3 ได้ทำการสืบสวนจับกุมผู้ค้า และผู้เสพยาเสพติด เพื่อเป็นการกวาดล้างยาเสพติดให้หมดสิ้นไปจากพื้นที่ เพื่อเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปราบปรามยาเสพติด