พะเยา - เกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนดอกคำใต้เดือดร้อนหนักหลังปศุสัตว์สั่งปิดโรงเชือดอ้างยังไม่ได้รับอนุญาต พร้อมเรียกร้องผู้มีอำนาจสั่งย้ายปศุสัตว์จังหวัดก่อนเดือดร้อนมากกว่านี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยาว่า ขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนดอกคำใต้กำลังได้รับความเดือดร้อนหนักหลังปศุสัตว์จังหวัดพะเยาสั่งปิดโรงฆ่าสัตว์ของสหกรณ์โคขุนดอกคำใต้เนื่องจากยังไม่ได้รับอนุญาต
นายมานิตย์ อินต๊ะสาร ที่ปรึกษาสหกรณ์อดีตประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคขุนดอกคำใต้ กล่าวว่า กลุ่มผู้เลี้ยงโคขุนดอกคำใต้ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2549 จนขยายเติบโตมาเรื่อยๆ ก่อนหน้านั้นได้นำโคของกลุ่มสมาชิกไปส่งยังสหกรณ์โคขุนโพนยางคำ ซึ่งต้องเดินทางไปไกลมากกว่า 800 กิโลเมตร จึงมีแนวคิดที่จะมีโรงเชือดไว้บริเวณใกล้บ้านเราเพื่อแปรรูปออกจำหน่าย
ต่อมาในสมัยที่นายชูชาติ กีฬาแปง เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้ขออนุมัติงบประมาณจากกลุ่มยุทธศาสตร์ภาคเหนือตอนบน 2 จำนวน 15 ล้านบาท โดยการผลักดันจากนายจำลอง อริยะจักร ปศุสัตว์จังหวัดในขณะนั้น มาทำการตั้งโรงเชือดขึ้นในพื้นที่ตำบลบ้านถ้ำ และยกฐานะเป็นสหกรณ์โคขุนดอกคำใต้ และเริ่มชำแหละเนื้อโคขุนดอกคำใต้ออกจำหน่ายทั่วประเทศ และปศุสัตว์คนต่อมาก็ให้การสนับสนุนงบประมาณมาโดยตลอดเพื่อพัฒนาโรงเชือดดังกล่าว จากการที่มีการเชือดเดือนละ 10 ตัว ปัจจุบันเชือดกว่า 40 ตัว ตลาดต่างๆ ที่สหกรณ์ฯ ได้ติดต่อไว้ก็ตอบรับหมด
แต่ปศุสัตว์คนปัจจุบันกลับไม่เคยมาดูแลพวกเราเลย มาอยู่ 2 ปีกว่างบประมาณสนับสนุนแม้แต่บาทเดียวก็ไม่เคยมาสนับสนุน ทั้งที่โรงเชือดดังกล่าวเป็นของปศุสัตว์ และจะสั่งปิด ทำให้กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนได้รับความเดือดร้อนหนัก ทั้งในเรื่องตลาดที่เราเปิดไว้ต้องได้รับความเสียหาย
และกลุ่มผู้เลี้ยงโคขุนที่ต้องไปกู้เงินมาเลี้ยงก็ต้องประสบกับภาวะขาดทุน ดังนั้นจึงอยากเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจทำการย้ายปศุสัตว์คนดังกล่าวออกจากพื้นที่โดยด่วนเพราะไม่เคยช่วยเหลือเกษตรกรเลย
สำหรับสหกรณ์ฯ มีสมาชิกอยู่กว่า 424 รายในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ซึ่งประกอบด้วย พะเยา แพร่ น่าน เชียงราย รวมทั้งจังหวัดลำปางที่พ่วงมาด้วย มีจำนวนวัวที่ทำการเลี้ยงแบบขุนกว่า 450 ตัว
นายชาติชาย ยอดรัก เกษตรกรสมาชิกสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคขุนดอกคำใต้ อำเภอจุน ระบุว่า ตนเลี้ยงโคขุนไว้ประมาณ 13 ตัว โดยจะเลี้ยงสลับสับเปลี่ยนจำหน่ายหากโคตัวไหนได้อายุหรือน้ำหนักตามที่ต้องการก็จะขายให้สหกรณ์เพียงแห่งเดียว ซึ่งหากทางปศุสัตว์ปิดโรงเชือดของสหกรณ์เราก็ตัองรับภาระในเรื่องของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น
รวมทั้งหากนำไปจำหน่ายให้พ่อค้าก็จะถูกกดราคา เพราะเราเลี้ยงแบบโคขุนต้นทุนก็สูงอยู่แล้ว หากสหกรณ์ถูกปิดจะทำให้พวกเราเดือดร้อนหนักอย่างแน่นอน
