xs
xsm
sm
md
lg

แม่ “น้องสปาย” ยื่นศาล จ.พัทยา ขอเป็นโจทก์ร่วมฟ้องเสี่ยอ้วน และพวก พร้อมฟ้องแพ่งอีก 14 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศูนย์ข่าวศรีราชา- แม่ “น้องสปาย” คดีฆ่า 2 ศพ หน้าพระพุทธรูปเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ ร้องสภาทนายความพัทยา ขอเป็นโจทก์ร่วมคดี “เสี่ยอ้วน” พร้อมพวกรวม 6 คน ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พร้อมฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายอีก 14 ล้านบาท

จากกรณีที่ นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ “เสี่ยอ้วน” พร้อมพวกรวม 6 คน ได้ร่วมกันก่อเหตุยิง น.ส.ปวีณา หรือ “น้องสปาย” นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และนายอนันตชัย หรือ “ฟอส จริตรัมย์” อายุ 20 ปี จนเสียชีวิตที่บริเวณลานจอดรถหน้าองค์พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมาและถูกจับกุมได้ในที่สุด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้ง 3 ข้อหาหนัก ประกอบด้วย ร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะนั้น

ล่าสุด วันนี้ (12 พ.ย.) นายเฉลิมวัฒน์ วิมุกตายน ได้นำกลุ่มทนายความจากสภาทนายความศาลจังหวัดพัทยา และนางวันเพ็ญ นาเมืองรักษ์ อายุ 40 ปี มารดาของ “น้องสปาย” และครอบครัวเดินทางมายังสำนักงานสภาทนายความจังหวัดพัทยา พร้อมเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน กรณีการร้องขอความเป็นธรรมจากสภาทนายความ ในการติดตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากปัจจุบันไม่ได้รับการชี้แจงหรือแจ้งความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด นอกจากนั้น มารดาของ “น้องสปาย” ยังจะขอเป็นโจทก์ร่วมในการฟ้อง นายปัญหา หรือ “เสี่ยอ้วน” และพวก เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่ง จำนวน 14 ล้านบาทด้วย

นายเฉลิมวัฒน์ วิมุกตายน ตัวแทนสภาทนายความ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นางวันเพ็ญ ได้ไปร้องขอติดตามความคืบหน้าทางคดีที่สภาทนายความ กรุงเทพฯเนื่องจากไม่ได้รับแจ้งเบาะแสความคืบหน้าตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งสภาทนายความ กรุงเทพฯ ได้ส่งเรื่องมายังสภาทนายความ เมืองพัทยา เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในพื้นที่ ซึ่งจากการพบปะพูดคุยกับ นางวันเพ็ญ พบว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือแจ้งเบาะแสความคืบหน้าทางคดี ในวันนี้จึงได้ยื่นหนังสือขอเป็นโจทก์ร่วมฟ้องนายปัญญา พร้อมพวกทั้ง 6 คน ในคดีร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

นอกจากนั้น ยังจะมีการเรียกค่าเสียหายชดเชยในการอุปการะเลี้ยงดูจากผู้ต้องหา จำนวน 14 ล้านบาท แยกเป็นค่าดูแลที่เคยได้รับจาก น้องสปาย เดือนละ 3 หมื่นบาท รวม 40 ปี เป็นเงิน 10 ล้านเศษ และค่าปลงศพอีกจำนวนกว่า 3 แสนบาท ซึ่งปัจจุบัน ศาลจังหวัดพัทยา ได้รับเรื่องไว้แล้ว ส่วนจะได้ครบตามจำนวนที่เรียกร้องหรือไม่ขึ้นอยู่ในดุลพินิจของศาล

ด้าน นายปัณฑวัฏฐ์ พิมพ์สกุล ทนายความ กล่าวว่า คดีดังกล่าวถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์และสะเทือนขวัญ โดยเป็นการลงมือก่อเหตุกลางแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังและต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งแม้ว่าผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธแต่ก็เชื่อมั่นว่าจากพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวมได้นั้นเพียงพอที่สามารถจะเอาผิดเพิ่มได้ ซึ่งหลังจากวันที่ 20 ธ.ค.นี้ จะสามารถนำผลการพิจารณามาแจ้งให้ทราบได้

ส่วนการฟ้องร้องนั้น ขณะนี้ผู้เสียหายได้ขอยื่นเป็นโจทก์ร่วมในคดีร่วมกันฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และจะฟ้องเป็นคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหาย ขณะนี้ในส่วนคดีอาญา เป็นเรื่องที่ศาลจะตัดสินต่อไป

“ส่วนกรณีที่ นายปัญญา กล่าวอ้างว่าได้โอนเงินให้ น้องสปาย หรือครอบครัวจำนวนหลายล้านบาทนั้น เรื่องนี้ไม่ได้นำมานับรวม เพราะไม่ใช่เรื่องของการเยียวยา แต่กำลังมีการตรวจสอบบัญชีของครอบครัวว่ามีความเคลื่อนไหวอย่างไร เพื่อนำมาประกอบสำนวน และสุดท้ายหากศาลตัดสินว่า นายปัญญา มีความผิดแต่ไม่ยอมชดใช้เงินตามการเรียกร้องในปริมาณที่ศาลตัดสิน คงจะมีการส่งเรื่องไปยังกรมบังคับคดี เพื่อร้องขอให้ยึดทรัพย์เพื่อนำมาขายทอดตลาด สำหรับนำเงินมาชดใช้ต่อไป” นายปัณฑวัฏฐ์ กล่าว





กำลังโหลดความคิดเห็น